MGR Online - “จิรพัฒน์” จัดกำลังตำรวจราจร 1,400 นาย อำนวยความสะดวกอำนวยความประชาชนกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่ คาดตั้งแต่เย็นนี้ขนส่งหมอชิตแน่น มั่นใจรับมือปัญหาจราจรช่วงสวดมนต์ข้ามปี-เคานต์ดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพฯ
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่าสถานีขนส่งที่ตำรวจเป็นห่วงมากที่สุด คือ สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) เบื้องต้นจากการรายงานทราบว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเริ่มมีปริมาณของประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัดมาใช้บริการที่สถานีขนส่งเพิ่มมากขึ้น ทำให้การจราจรบริเวณหน้าขนส่งหมอชิต 2 เริ่มชะลอตัว ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเย็นนี้และเรื่อยไปจนถึงช่วงวันศุกร์จะมีปริมาณผู้ใช้บริการเข้ามาภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจกระทบต่อการจราจรโดยรอบ จึงสั่งการให้กองบังคับการตำรวจจราจรและสถานีตำรวจในพื้นที่เข้าไปช่วยอำนวยการจราจรให้รถ คล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณผู้ใช้บริการที่สถานีขนส่งเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปีเนื่องจากมีการย้ายวินรถตู้โดยสารจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาที่ขนส่งสายต่างๆ
พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวว่า สำหรับการจัดการจราจรในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค. คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไปร่วมสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆ ใน กทม.เพิ่มมากขึ้น แต่เชื่อว่าจะสามารถจัดการจราจรในบริเวณหน้าวัดต่างๆได้ เพราะมีผู้เดินทางออกจาก กทม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนการจัดกิจกรรมสวดมนต์และจุดเทียนแสดงความอาลัย มีงานใหญ่อยู่ใน 2 จุด คือ บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และท้องสนามหลวง สำหรับในจุดดังกล่าวได้สั่งให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในพื้นที่ประมาณ 1,400 นาย โดยจะปิดการจราจรในลักษณะปกติที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง แต่ในช่วงหลัง 20.30 น.ของวันที่ 31 ธ.ค.จะมีการประเมินอีกครั้งว่าต้องมีการปิดการจราจรเต็มรูปแบบตั้งแต่แยกหลานหลวงยาวจนถึงแยกอรุณอมรินทร์หรือไม่ หากประชาชนไม่มากก็จะใช้แผนเดิมไปก่อน ส่วนในจุดที่ 2 ที่มีการจัดงาน คือ บริเวณแยกราชประสงค์ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่จะมีการจัดกิจกรรมโดยรอบ เบื้องต้นจะมีการปิดการจราจรโดยรอบแยกราชประสงค์ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 30 ธันวาคม จนเสร็จสิ้นงานส่วนแผนการจัดการจราจรจะใช้แผน countdown ของปีที่ผ่านมาเชื่อว่าจะสามารถรับมือการจราจรในพื้นที่ได้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมในจุดต่างๆ ใช้รถสาธารณะ อย่านำรถยนต์ส่วนตัวมา
พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวถึงโครงการ “ปีใหม่ รีเซตใบสั่ง” ว่าเป็นโครงการที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกออกใบสั่งและยึดใบขับขี่ ให้มารับใบขับขี่กลับคืนและนำพกติดตัวขณะเดินทางกลับภูมิลำเนา เพียงชำระค่าปรับในราคา 100 บาท โดยใบสั่งที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้จะต้องเป็นข้อหาที่มีโทษปรับไม่เกิน 400 บาท เช่น ข้อหาอุปกรณ์ของจักรยานยนต์ไม่สมบูรณ์ ไม่พกใบขับขี่หรือสำเนาการครอบครองรถขณะใช้ยานพาหนะ หรือไม่สวมหมวกกันน็อก โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.ถึงวันที่ 4 ม.ค. 2560 โดยตั้งแต่เริ่มโครงการมาก็ได้มีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการรวมถึงโทร.มาสอบถามรายละเอียดเป็นจำนวนมาก คาดภายใน 2 วันจะสามารถสรุปจำนวนใบสั่งที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ สำหรับประชาชนที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผ่านสายด่วน 1197 และผ่าน www.trafficpolice.go.th หรือแอปพลิเคชัน police i lert u จราจร