xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แกะรอย 3 วันตามรวบแฮกเกอร์เจาะเว็บไซต์ สตช. 1 ในสมาชิก“ต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์"(มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผบ.ตร.เผยจับตัวแฮกเกอร์ ผู้ต้องหาเจาะระบบเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แล้ว ใช้เวลา 3 วัน ยึดของกลาง ซีพียูคอมพิวเตอร์ อาวุธปืนสั้น 3 กระบอก กัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง พบเป็นสมาชิกกลุ่ม“ต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ เชื่อมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังทั้งในและนอกประเทศ ปัดสาเหตุโยงกลุ่มการเมืองหรือไม่



วันนี้(26 ธ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ต.ศุภเชษฐ์ โชคชัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.),พล.ต.ต.ศิริพงศ์ ติมุลา ผบก.สนับสนุนทางเทคโนโลยี,พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง,พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงจับกุม นายณัฐดนัย คงดี อายุ 19 ปี ผู้ต้องหากลุ่มแฮกเกอร์พร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก,อาวุธปืนยาว 1 กระบอก,โครงปืน 2 อัน พร้อมเครื่องกระสุน,กัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก หลังจากทหารส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ดำเนินคดี

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบว่าพบว่า นายณัฐดนัย มีการกระทำความผิดจริง นอกจากจะแฮกข้อมูลตำรวจรวมทั้งหน่วยราชการอื่นๆ แล้ว ยังพบมีการซื้อขายปืนทางอินเตอร์เน็ตด้วยซึ่งนายณัฐดนัย เป็นบุคคลที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ต้องออกจากโรงเรียน ซึ่งเป็นสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านคลองสามวา แล้วใช้คอมพิวเตอร์ติดตาม กลุ่มต่อต้าน Single Gateway ที่รวมตัวกันตั้งเพจเฟซบุ๊ก ในชื่อ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway หรือ opsinglegateway ซึ่งมีพฤติกรรมยุยงปลุกปลั่นให้ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ โดยยกอ้างประเด็นการใช้ระบบซิงเกิลเกตเวย์มาปลุกระดม ให้เกิดการต่อต้าน จะมีกลุ่มที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเป็นเหยื่อ หลอกให้ส่งข้อมูล ซึ่งกลุ่มนี้จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปส่งต่อเพื่อให้ทุกคนหลงเชื่อและเข้าใจข้อมูลที่บิดเบือน ทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือไอโอ โดยนายณัฐดนับก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่หลงเชื่อกลุ่มพวกนี้ เข้ามาเจาะระบบของสำนักนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เข้าถึงข้อมูลได้ในระดับผิวเผินเท่านั้น ไม่ได้เข้าถึงชั้นความลับ หรือข้อมูลสำคัญแต่อย่างใด

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มนี้เริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทราบข้อมูลตนได้สั่งการไปยัง พล.ต.อ.เดชณรงค์ รรท.รอง ผบ.ตร.ด้านกิจการพิเศษ ,พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.ผบช.ส. และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ร่วมทำการสืบสวนคนที่แฮกเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากนั้นอีก 3 วัน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ โดยอยู่ในความควบคุมของกองทัพ ก่อนที่วันนี้ทางกองทัพได้ส่งมาให้ตำรวจดำเนินการต่อตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการขยายผลต่อไป ถ้ามีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ใครเป็นคนส่งข้อมูลให้กระทำการบิดเบือนข้อเท็จจริงก็ต้องดำเนินคดีทุกคน

" ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ผ่านไปวาระ 3 ของ สนช.ไปนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซิงเกิลเกตเวย์ แต่เป็นการพัฒนากฎหมาย ข้อมูลเก่าเมื่อปี พ.ศ.2550 ซึ่งกฎหมายขณะนั้นขึ้นกับกระทรวงไอซีที แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนเป็นกระทรวงดิจิตัลแล้ว ได้ทำการปรับปรุงกฎหมายเก่า เนื่องจากโลกปัจจุบันมีความสลับซับซ้อนมาก ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ต่างๆ มีการพัฒนาไปมากมีฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง ที่ผ่านมาทาง บก.ปอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับการโอนเงินจนเกิดความเสียหาย ซึ่งเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ดังนั้นในปีนี้จึงต้องมีการปรับปรุงระบบกฎหมายให้ดีขึ้น นำกฎหมาย พ.ร.บ.เก่ามีพัฒนาใหม่ก็เท่ากัน ไม่เกี่ยวกับซิงเกิลเกตเวย์เลย" ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ส่วนของกลางนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบภายในห้องผู้ต้องหา ที่รับว่าซื้อขายอาวุธซึ่งเป็นจริงทั้งหมด ผ่านอินเตอร์เน็ต ปืนก็พบที่ใต้เตียงนอน ซุกซ่อนไว้ สำหรับพฤติกรรมการแฮก ก็รับว่าทำจริง ทั้งนี้แม้มีการจับกุมแล้ว แต่ยังมีกลุ่มที่ยังหลงเหลือพยายามแฮกอยู่เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวมาให้ได้อยู่แล้ว ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู กลุ่มเหล่านี้ มี 2 ระดับ คือระดับสั่งการ และระดับปฏิบัติการ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มระดับสั่งการ มีทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศ ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการกี่คนนั้นไม่ขอตอบ ส่วนจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่นั้นก็ไม่ตอบ แต่ถ้าหลักฐานโยงไปถึงใครก็ดำเนินการหมด ขณะที่ระดับปฏิบัติการ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ซึ่งทุกคนก็คิดเป็น แต่ก็ยังหลงเชื่อ ส่วนใหญ่ เด็กอายุ 17 - 20 ปี จะมีความรู้ขนาดไหนถ้าไม่ถูกหลอก ให้หลงเชื่อก็คงไม่ทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามยอมรับไม่กังวล เตือนอย่าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง พวกที่ทำแบบนี้พอถูกจับได้ขอแล้วกันอย่ามาเรียกร้องขอประกันตัว ทั้งนี้จะให้ประกันตัวนายณัฐดนัย หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ด้าน พล.ต.ต.ศิริพงศ์ กล่าวถึงเพจเฟซบุ๊ก ในชื่อ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway หรือ opsinglegateway ว่า กลุ่มนี้ เพจจนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเพจเฟซบุ๊ก แต่เป็นระบบปฏิบัติการที่ให้สมาชิก ส่งข้อมูลกระจายข้อมูล แบ่งโครงสร้างกลุ่มเป็น 1.ระดับสั่งการ สั่งการกระจายข้อมูลเพื่อให้ระดับปฏิบัติการ ไปก่อการทำงานตามวัตถุประสงค์ กลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนอยู่ว่าเป็นใคร อย่างไรบ้าง 2.ระดับปฏิบัติการ แบ่งกำลังเป็นกองพล กองพัน มีกลุ่มย่อยๆอีกหลายกลุ่ม แบ่งการทำงานโดย แสดงสัญญลักษณ์ กลุ่มย่อยผ่านการติดแฮชแทก ที่แตกต่างกัน ซึ่งกำลังจำแนกอยู่ว่า แฮชแทกใดมีผู้ใช้มากที่สุด ก็จะเร่งดำเนินการกลุ่มนี้ก่อน เบื้องต้นนายณัฐดนัยนั้นเข้ามาเจาะเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เข้ามาได้แต่ระดับผิวเผินเท่านั้น

ขณะที่ พล.ต.ต.ศุภเชษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในการปลอมแปลงข้อมูลอันเป็นเท็จ เนื่องจากผู้ต้องหาเชื่อว่ารัฐบาลจะนำ ซิงเกิลเกตเวย์ แต่ยันยันว่าใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ผ่านวาระ3 นั้นไม่ได้เรื่องของ ซิงเกิลเกตเวย์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อผู้ต้องหาเชื่ออย่างนั้นจึงตกเป็นเหยื่อให้มาโจมตีเว็บไซต์ของภาครัฐ

ด้านพล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ตนขอฝากไปยังคนที่ยังหลงกระทำความผิดหยุดการกระทำความผิดเหล่านั้น เนื่องจากตำรวจมีศักยภาพในการสืบสวน พิสูจน์ทราบ ควบคุมตัว ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ขยายผล ได้นำตัวบุคคลต้องสงสัยมาอยู่ในที่ปลอดภัย สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์เลย บุคคลเหล่านั้นที่ทำต้องรู้ว่าตัวเองอาจจะมีศักยภาพ แต่อย่าใช้ศักยภาพในทางที่ผิด ถ้ารับเงินรับทองจากใครต้องดูว่ามันสมควรหรือไม่ ต้องหยุดกระทำทันที ไม่อย่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจะเข้าถึงตัวพวกคนกระทำความผิดได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 9 คนนั้นยังไม่ยืนยัน แต่มีจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายณัฐดนัย เป็นคนแรกที่เจ้าหน้าที่นำมาดำเนินการ เนื่องจากมีความผิดชัดเจน ซึ่งผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยแต่ละคนมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฐานมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 4,7 และ14,มีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490,มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2552 และ มีความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 จำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 20,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มนี้มีระดับปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวประมาณ 10 กว่าคน โดยระดับสั่งการจะส่งข้อมูลเบื้องต้นให้ กลุ่มระดับปฏิบัติการที่มีความรู้เข้าไปเจาะข้อมูล เมื่อทำสำเร็จก็จะได้รับชื่อเสียง การยกย่องจากกลุ่ม ว่ามีฝีมือ สามารถเข้าเจาะข้อมูลหน่วยงานต่างๆได้





กำลังโหลดความคิดเห็น