MGR Online-–“ทนายอนันต์ชัย” พร้อมญาติชายขาพิการ เดินทางมาศาลตานัด ตรวจพยาน - หลักฐานคดี 6 โจ๋ ใช้มีดรุมฟันจนเสียชีวิต โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี แต่ขอสู้คดีทะเลาะวิวาท ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก 18 ก.ค. 2560"
วันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพีรพล หรือ เปา ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ปี นายอัครเดช หรือ อั๋น ทัศนะ อายุ 22 ปี นายมนต์มนัส หรือ เต้ย แสงโพธิ์ อายุ 21 ปี นายจตุพร หรือ เบียร์ จันทร์โสภา อายุ 18 ปีเศษ นายเมฆ พลไกรษร อายุ 19 ปี นายอรินทร์ หรือ เตอร์ ยศพงศ์อนันต์ อายุ 19 ปี และ น.ส.ณัฐณิชา หรือ เกม ฤทธิ์ล้ำเลิศ อายุ 18 ปีเศษ เป็นจำเลยที่ 1 - 7 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เวลากลางวัน พวกจำเลยบุกเข้าไปในบ้านพักของสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 35 ปี ชายพิการ อาชีพส่งขนมปังร้านปังหอม ในซอยโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว แล้วใช้อาวุธมีดแทงฟันนายสมเกียรติ จนถึงแก่ความตาย
โดยวันนี้ นางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาของ นายสมเกียรติ ซึ่งเข้าเป็นโจทก์ร่วมเดินทางมาศาลพร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ รวมถึงญาติ และผู้มาให้กำลังใจกว่า 20 คน ซึ่งศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง
โดยวันนี้ศาลได้สอบคำให้การจำเลยทั้ง 7 อีกครั้งว่าจะรับหรือปฏิเสธ ซึ่งจำเลยทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธขอสู้คดี
ทั้งนี้ ฝ่ายโจทก์แถลงขอนำพยานเข้าสืบพยาน จำนวน 24 ปาก ส่วนจำเลยแถลงขอนำพยานเข้าสืบพยาน 12 ปาก ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต และกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 18 ก.ค. 2560
นายอนันต์ชัย กล่าวภายหลังว่า ศาลได้ให้โอกาสสอบคำให้การจำเลยซ้ำอีกครั้ง แต่จำเลยก็ยังให้การปฏิเสธต่อสู้คดี โดยอ้างเหตุมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งตนก็ต้องการให้จำเลยปฏิเสธ เพราะจะเป็นผลดีต่อผู้เสียหายและการพิสูจน์ความจริง เพราะหากจำเลยรับสารภาพตอนนี้ศาลก็คงจะลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่เมื่อจำเลยไม่รับสารภาพ หากศาลพิพากษามาก็จะต้องรับโทษเต็ม ตามที่ศาลมีคำพิพากษา และหากจำเลยมาเปลี่ยนกลับคำให้การในภายหลังจากที่มีการสืบพยานไปแล้วศาลก็อาจจะไม่ลดโทษให้เนื่องจากเป็นการรับสารภาพโดยจำนนต่อพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของจำเลยที่เป็นผู้หญิงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คดีจะเป็นอย่างไร นายอนันต์ชัย กล่าวว่า คดีนี้ตนได้นำพยานหลักฐานใหม่ที่ปรากฏภาพจำเลยผู้หญิงเดินเข้าหากลุ่มจำเลยผู้ชายทั้ง 6 คน ขณะก่อเหตุ ซึ่งในวันที่ 18 ก.ค. ปีหน้า ตนจะขึ้นเบิกความเป็นพยานโจทก์ปากแรกด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องความเสียหายทางแพ่ง ญาติผู้เสียหายได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกค่าเสียหายแก่จำเลยทั้ง 7 คน ประมาณ 1 ล้านบาท