xs
xsm
sm
md
lg

เมียผู้เสียหายคดีรับจ้างติดคุกแปรรูปไม้เถื่อน ร้อง ยธ.หลังถูกข่มขู่เพิ่มอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ พาเมียผู้เสียหายโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนมุกดาหาร คดีรับติดคุกแทนนายจ้าง ร้องกระทรวงยุติธรรมหลังตำรวจโทร.มาข่มขู่

วันนี้ (8 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมนางวิกุล โพธิ์ไชย ชาว จ.มุกดาหาร ผู้เสียหาย เดินทางร้องทุกข์ต่อนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนหาตัวขบวนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนและช่วยเหลือผู้ถูกหลอกให้ติดคุก

นายสงกานต์กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากนางวิกุล หลังจากนายชวนณรงค์ คำปาน สามี ถูกหลอกลวงให้ไปรับจ้างติดคุกแทนนายทุนคดีตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนรายใหญ่ โดยให้ค่าจ้างจำนวน 200,000 บาท แต่จ่ายเงินให้เพียง 100,000 บาท เนื่องจากครอบครัวค่อนข้างยากจนเห็นว่าเป็นเงินจำนวนมากและติดคุกไม่นานจึงตกลง ก่อนถูกตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร จับกุมตัวดำเนินคดีในฐานะเป็นเจ้าของโรงงานไม้แปรรูป พร้อมกับดำเนินคดีดาบตำรวจนายหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่สุดท้ายกลับเข้ามารับราชการ ทั้งนี้ นายชวนณรงค์ให้การรับสารภาพทั้งหมดว่ามีผู้ว่าจ้างวานและยอมรับในการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งเป็นคดีความผิดอาญา ศาลจึงตัดสินลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี 3 เดือน ขณะนี้ติดคุกอยู่ในเรือนจำมุกดาหาร 5 เดือนแล้ว จากนั้นนายดาบตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีได้โทรศัพท์มาข่มขู่ ก่อนที่นางวิกุลจะติดต่อมายังตนเพื่อขอความช่วยเหลือในคดีความให้ได้รับความเป็นธรรม พร้อมทำการสืบสวนข้อเท็จจริงใหม่ทั้งหมด

นายสงกานต์กล่าวอีกว่า ตนในฐานะประธานเครือข่ายฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของกลุ่มนายทุน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐร่วมมือกันกระทำความผิดต่อกฎหมาย และทรัพยากรธรรมชาติ โดยขอให้รับเรื่องดังกล่าวดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการติดต่อจ้างวานนายชวนณรงค์ไปรับจ้างติดคุก และขอช่วยเหลือประกันตัวออกจากคุกเพื่อต่อสู้คดี และนายชวนณรงค์ พร้อมที่จะรับโทษเรื่องแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และละเมิดอำนาจศาลตามกฎหมายต่อไป

นายสงกานต์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีอีก 2 กรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คือ 1. ชาวกะเหรี่ยง 3 รายเดินทางไปเก็บเห็ดเขตป่าห้วยขาแข้ง ในจ.อุทัยธานี ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต 1 ราย ส่วนคนอื่นหลบหนีออกมาได้ ซึ่งการชันสูตรศพนั้นพบว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับการทำคดีและได้แจ้งข้อหาเจ้าหน้าที่กระทำผิดเพียงรายเดียวทั้งๆ ที่ไปร่วมกัน 3-4 นาย จึงอยากให้ตรวจสอบคดี และ 2. หญิงสาวถูกอดีตแฟนหนุ่มชาวเวียดนามกลั่นแกล้งเซ็นเอกสารและถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ลุมพินี ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ก่อนถอนเงินในบัญชีธนาคาร 3.4 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าประกัน อยากให้สืบสวนสอบสวนเพื่อขอความเป็นธรรมหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดปิดคดี

ด้านนายธวัชชัยเปิดเผยว่า สำหรับกรณีติดคุกแทนนายจ้าง กระทรวงยุติธรรมจะส่งเรื่องไปยังดีเอสไอเพื่อดำเนินการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดรายใหญ่ และอยากให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมแยกสืบสวนและ สอบสวนออกจากกันเพื่อความโปร่งใส ส่วนคดีชาวกะเหรี่ยงถูกยิงเสียชีวิต และคดีหญิงสาวถูกตำรวจ สน.ลุมพินี แจ้งข้อหา พบความผิดปกติในขั้นตอนการดำเนินการจึงต้องตรวจสอบวิธีการทำงานใหม่ โดยทั้งหมดกระทรวงยุติธรรมจะรับไว้พิจารณา
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น