MGR Online - ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำตัวอดีตทหารเกณฑ์ร้องตำรวจ สน.คันนายาว อ้างจับผิดตัวค้ายาบ้าถูกขัง 7 เดือน รอง ผบก.น.2 เชิญอดีตภรรยาสอบ ยันหนีทหารมาอยู่กินปี 51 ช่วงเวลาที่ถูกจับ
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ สน.คันนายาว นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายสายัณห์ แสงสุข เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในการรื้อฟื้นคดี และเอาผิดต่อพนักงานชุดจับกุมพร้อมพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว
นายสายัณห์กล่าวว่า ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาฝากขังไว้ที่ สน.คันนายาว 2 คืน ก่อนที่จะส่งเข้าเรือนจำเป็นเวลากว่า 7 เดือน และให้เหตุผลว่าตนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด เนื่องจากเมื่อปี 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สกัดจับจักรยานยนต์ต้องสงสัยในซอยสุขาภิบาล 5 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าจำได้ว่าคนร้ายคือตนซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะปี 2551 ตนยังเกณฑ์ทหารอยู่ที่จังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งยังมีใบหนังสือรับรองจากกรมมายืนเป็นหลักฐานอีกด้วย
ด้านนายอัจฉริยะกล่าวว่า ขณะนี้ต้องรออัยการว่าจะมีการอุทธรณ์หรือไม่ และจะไปรับเงินเพื่อขอการเยียวยาต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า จากการสืบสวนข้อเท็จจริงคดีดังกล่าวพบยาบ้าของกลางพร้อมจักรยานยนต์จริง จากการตรวจสอบพบว่านายสายัณห์มีความเกี่ยวข้องเป็นสามีของพี่สาวเจ้าของจักรยานยนต์ และในวันที่เกิดเหตุซอยสุขาภิบาล 5 ด.ต.สังวาลย์ยืนยันว่าได้ขับรถสวนทางในลักษณะประจันหน้ากับผู้ต้องหาซึ่งรถของตนเองเปิดไฟ รถของผู้ต้องหาปิดไฟในระยะ 1 เมตร จึงเห็นรูปพรรณได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.พัชกาญ (สงวนนามสกุล) อดีตภรรยาของนายสายัณห์มาสอบปากคำต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งให้การเป็นประโยชน์มาก จากการสอบปากคำ น.ส.พัชกาญให้การว่า นายสายัณห์ได้หลบหนีทหารมาอยู่กับตนเป็นเวลา 1 ปีเศษ นายสายัณห์เคยมีพฤติกรรมขโมยของในบ้านของตนมาแล้วแต่ทางครอบครัวไม่อยากเอาเรื่อง สำหรับเรื่องจักรยานยนต์คันก่อเหตุเป็นของ น.ส.วราภรณ์ (สงวนนามสกุล) จริงแต่ไม่ทราบว่าในวันเกิดเหตุใครเป็นคนขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าว