MGR Online - หลานสาว “พลทหารวิเชียร” ที่ถูกลงโทษทางวินัยจนเสียชีวิต แจ้งความตำรวจกองปราบปรามเอาผิดพนักงานสอบสวนนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกรณีถูกนายทหารอดีตผู้บังคับบัญชาแจ้งดำเนินคดีหมิ่นประมาทโพสต์เรื่องราวการถูกซ้อมทรมาน
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือเมย์ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศักดิ์เป็นหลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม อายุ 26 ปี ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทแล้วสมัครเข้าเป็นทหาร ถูกผู้บังคับบัญชาและทหารในสังกัดรวม 10 นาย ลงโทษจนเสียชีวิตในค่ายทหารที่ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อปี 2554 เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนศิริ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ สน.มักกะสัน และตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส รวม 8 นาย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังจากทั้งหมดได้เข้าจับกุม น.ส.นริศราวัลถ์ ตามหมายจับในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามที่ถูกนายทหารยศ พ.ต. อดีตผู้บังคับบัญชาของพลทหารวิเชียรแจ้งความดำเนินคดีไว้
น.ส.นริศราวัลถ์กล่าวว่า เหตุที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจชุดจับกุมในครั้งนี้เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่เคยได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด แต่กลับมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับ และมีการเข้าจับกุมตนถึงที่ทำงานโดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงตัว ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะหากตนทราบข้อหาก็พร้อมจะเข้าต่อสู้คดีตามกระบวนการอยู่แล้ว
น.ส.นริศราวัลถ์กล่าวต่อว่า เมื่อทางพนักงานสอบสวนได้พิจารณาดำเนินคดีต่อตนแล้วก็มีการส่งสำนวนคดีไปยังอัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาล โดยกระทำอย่างรวบรัด กลายเป็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ เลยจากการตกเป็นผู้ต้องหา เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีประเด็นใดบ้างที่เป็นจริงหรือเท็จ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบเพียงว่าเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา อัยการจังหวัดนราธิวาสได้ส่งสำนวนคดีไปยังอธิบดีอัยการภาค 9 เพื่อพิจารณาแล้ว ส่วนความเห็นทางคดีจะออกมาอย่างไรนั้นคงต้องรอฟังว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่อ้างว่าตนไปโพสต์ข้อความเท็จกล่าวหานายทหารยศ พ.ต.นายหนึ่ง ซึ่งในช่วงเกิดเหตุเมื่อปี 2554 เขามียศแค่ ร.ท. เพราะตนมีพยานหลักฐานยืนยันถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ของนายทหารรายนี้ว่ามีการกระทำเกินกว่าเหตุต่อพลทหารวิเชียร
น.ส.นริศราวัลถ์กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่ามูลเหตุน่าจะมาจากกรณีที่ทางญาติเคยร้องเรียนไปยังกองทัพบก ก่อนหน้านี้ให้พิจารณาสั่งพักราชการทหารที่เกี่ยวข้องกับการทารุณพลทหารวิเชียร ซึ่งมีหลักฐานทุกอย่างทั้งการชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ทั้งทางวินัยและอาญา แต่กลับยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตรงกันข้ามกับกรณีของพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด ที่ค่ายทหารใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งถูกผู้บังคับบัญชาทำโทษจนเสียชีวิตเช่นเดียวกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้ว่าในทางคดียังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็มีการสั่งถอดยศทหารที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงต้องนำมาเปรียบเทียบกับกรณีของพลทหารวิเชียร
“อยากจะขอคำตอบจากกองทัพบกว่าที่ไม่ดำเนินการนั้นมีเหตุผลประการใด และนอกจากไม่ดำเนินการแล้วปัจจุบันนายทหารที่เกี่ยวข้องบางนายยังได้รับการพิจารณาเลื่อนยศเลื่อนขั้นด้วย และยังกลับมาแจ้งความดำเนินคดีต่อดิฉันอีกด้วย” น.ส.นริศราวัลถ์กล่าว
น.ส.นริศราวัลถ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการดำเนินการต่อนายทหารที่เกี่ยวข้องนั้น ตนได้เคยยื่นเรื่องที่กองบัญชาการกองทัพบกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ทราบว่ามีการส่งเรื่องให้แม่ทัพภาคที่ 4 พิจารณาให้ความเห็นในการสั่งพักราชการ ก่อนจะส่งไปยัง ผบ.ทบ.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ก็จะไปยื่นเรื่องที่กองบัญชาการกองทัพบกอีกครั้ง เพื่อขอให้มีการพิจารณาถอดยศนายทหารคนดังกล่าวด้วย สำหรับกรณีการฟ้องแพ่งนั้น ทางมารดาของพลทหารวิเชียรได้ฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางละเมิดต่อหน่วยงานต้นสังกัดไปแล้ว กรณีนี้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้
ด้าน ร.ต.อ.กฤษณ์ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้แล้ว ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป