MGR Online - ผบก.น.4 เผย เหตุญิงสาวในคลิปดังนั่งท้ายรถยนต์เก๋ง เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก แล้ว ถูกเปรียบเทียบปรับผิด พ.ร.บ. ทางบก นั่งบนรถในลักษณะอันตรายปรับ 500 บาท ด้านฝ่ายชายคนขับขอเลื่อนให้ปากคำ ระบุสาเหตุปมทะเลาะหึงหวงภายในครอบครัว
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 เปิดเผยความคืบหน้า ว่า ตนเห็นคลิปหญิงสาวสวมชุดขาว - ดำ นั่งบริเวณท้ายรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีแดง หมายเลขทะเบียน 3 ก 2748 กทม. บนถนนพระราม 9 (ขาเข้า) เมื่อวันที่ 13 พ.ย. เวลาประมาณ 18.15 น. ที่ผ่านมานั้น ครั้งแรกก็ตกใจ แต่เมื่อดูให้ดีก็พบว่าเป็นคนจริงๆ ซึ่งทางผู้หญิงที่นั่งอยู่บริเวณท้ายรถได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี (ขอสงวนชื่อ - นามสกุล) เปรียบเทียบปรับไปแล้วจำนวน 500 บาท ในข้อหา นั่งบนรถยนต์ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่อยู่ในทางเดินรถ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 124 วรรคสอง ระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวอีกว่า สาเหตุเกิดจากการทะเลาะกัน ซึ่งเป็นปัญหาภายในครอบครัว โดยทางผู้ขับขี่และสุภาพสตรีเป็นสามีภรรยากัน คบหาดูใจกันมาหลายปีแล้วมีลูกด้วยกัน 1 คน เกิดทะเลาะกันตั้งแต่อยู่ที่บ้านพัก จนกระทั่งผู้ชายได้ขับรถมาส่งที่ทำงานย่านทาวน์อินทาวน์ แต่ได้มีปากเสียงทะเลาะหึงหวงกันภายในรถยนต์ ก็ไม่สามารถเคลียร์กันได้ ฝ่ายผู้หญิงจึงได้ลางาน ส่วนผู้ชายจะขับรถมาทำงานต่อในเขตใกล้ๆ โซนพระรามเก้า ฝ่ายผู้หญิงจึงกระโดดขึ้นหลังรถนั่งมาในสภาพที่เห็นตามที่ปรากฏในคลิปหลากหลายสถานที่ ทั้งช่วงพัฒนาการ 53 ช่วงเวลา 17.45 น. วันที่ 13 พ.ย. ช่วงรถติดไฟแดงบริเวณแยกโบสถ์แม่พระ ดินแดง พบเห็นหญิงสาวผมยาวใช้รองเท้าทุบกระจกรถยนต์สีแดงฝั่งคนขับ
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทุกคลิปเป็นผู้หญิงรายเดียวกัน ซึ่งฝ่ายหญิงให้การว่า ภายในรถยนต์ยังมีทรัพย์สิน ทั้งกระเป๋า โทรศัพท์ และสิ่งของอยู่ ส่วนฝ่ายชายได้ล็อกรถไว้ ทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจนั่งอยู่ท้ายรถตามที่ปรากฏในคลิป อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ได้รับหมายเรียกแล้ว ซึ่งได้นัดหมายว่าจะเข้าให้การช่วงบ่ายของวันที่ 18 พ.ย. แต่เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว จึงของเลื่อนนัดหมายเป็นสัปดาห์หน้า โดยฝ่ายชายเป็นชายไทย อายุ 47 ปี (ขอสงวนชื่อ - นามสกุล) จะแจ้งข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(8) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ