MGR Online - รองโฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่งฝ่ายกฎหมายและ ปอท.ล่าเกรียนคีย์บอร์ดกุข่าวออกจากตำแหน่ง ลั่นดำเนินการเฉียบจาด ชี้มีเจตนาปลุกกระแสทำภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย เชื่อเป็นมือกุข่าวกลุ่มหน้าเดิม
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวในสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียว่าจะมีการปลด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกจากตำแหน่ง ว่าขณะนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานว่ามีความผิดฐานใดบ้าง และมีการประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เรียบร้อยแล้ว หากทางฝ่ายกฎหมายมีการพิจารณาแล้วมีความผิดฐานใดนั้นก็จะมีการส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดี เรื่องนี้มีการดำเนินการอย่างเฉียบขาดและเต็มที่
“ในการที่จะลงในโซเชียลมีเดียบางครั้งบางคราวที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย และก็ให้เกิดความสับสนของสังคมจะเป็นผลร้ายต่อภาพลักษณ์องค์กร เราจึงได้มีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ส่วน ผบ.ตร.จะแจ้งความในนามส่วนตัวหรือแจ้งความในนามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น อยู่ที่ฝ่ายกฎหมายประมวลเรื่องและนำเสนอมาอีกครั้ง” รองโฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นขบวนการหรือไม่ ที่มีการเขย่าเป็นระยะ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เป็นการใช้แผนประทุษกรรมเดิมๆ ในการปลุกกระแสต้องมีเจตนารมณ์พิเศษอยู่แล้ว โดยเราก็ต้องเอาข้อหาหลักไว้ก่อน หากมีความผิดฐานใดและเข้าข่ายก็จะมีการขยายผลต่อไป เมื่อถามว่าแผนประทุษกรรมเดิมก็มองว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดิม รองโฆษก ตร.กล่าวว่า แผนประทุษกรรมและวิธีกรรมเดิมๆ ที่ในอดีตใช่ช่วงเวลาอย่างนี้เอามาใช้ปลุกกระแสทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของตำรวจ โดยในโลกปัจจุบันเป็นโลกของโซเชียลมีเดีย ถ้าหากมีการบิดเบือนข้อมูลหรือข้อมูลเป็นเท็จเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายก็มีความผิดหลายมาตรา
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการนั้น ปอท.กำลังรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ต้องแยกเป็น 2 ส่วน การรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการโดย ปอท. ในส่วนการพิจารณาข้อกฎหมายเรามีฝ่ายกฎหมายในการพิจารณาว่าเป็นการกระทำความผิดตามข้อหาใด จะแจ้งความหรือไม่อย่างไร ซึ่ง ผบ.ตร.ไม่ได้มาสนใจ แต่เป็นเรื่องของภาพลักษณ์องค์กร ทุกวันนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปในงานของพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่ง ผบ.ตร.ไปด้วยตัวเองวันเว้นวันจนไม่มีเวลา อีกทั้งมีการดำเนินการด้วยตัวเองในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง การลดระดับอาชญากรรม ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกอย่าง รวมถึงในเรื่องงานต่างประเทศ
