MGR Online - รวบคาสนามบิน ชาวเกาหลีใต้บินกลับไทยร่วมงานศพลูกชาย หลังหนีหมายจับกว่า 7 ปี คดีฆ่าเพื่อนเสียชีวิตในห้องพักโรงแรมหรูย่านสุขุมวิทเมื่อปี 52 เพราะไม่พอใจถูกทวงหนี้สิน
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น. พ.ต.อ.สิทธิชัย โล่กันภัย รรท.ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.10 น.วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตม.สุวรรณภูมิ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 (ชุดปฏิบัติการที่ 2) ร่วมกันจับกุม นายมูน วัง ซิค (MOON WANG SIK) อายุ 56 ปี ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลพระโขนง คดี ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้นำอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน ท้องที่เกิดเหตุ สน.ลุมพินี ภายหลังเดินทางมาไทยด้วยสายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์ เที่ยวบิน OZ741 เส้นทางกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้-กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตรงประตูเทียบเครื่องบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สืบเนื่องจากนโยบายเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าที่จะเดินทางเข้าออกประเทศ ผ่านระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (ระบบ APPS : Advanced Passenger Processing system) ทำให้ชุดสืบสวนสืบทราบว่านายมูน วัง ซิค มีลักษณะรูปพรรณสัณฐานตรงกับบุคคลตามหมายจับคดีฆ่าชาวเกาหลีใต้ ในปี 2552 ของ สน.ลุมพินี โดยนายมูนได้ก่อเหตุลวงเจ้าหนี้ชาวเกาหลีใต้ไปฆ่าในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กทม. เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกทวงเงิน หลังจากก่อเหตุนายมูนได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไป เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีใต้พยายามติดตามตัวนายมูนมาดำเนินคดี จนกระทั่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันเวลาดังกล่าว ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปฏิบัติการที่ 2 จึงนำกำลังเข้าจับกุม
ทั้งนี้ นายมูน วัง ซิค ให้การยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลในหมายจับ แต่ปฏิเสธในชั้นจับกุมว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าชาวเกาหลีใต้ ส่วนที่เดินทางมาไทยก็เพื่อจะมาดำเนินนการเรื่องศพของบุตรชายชาวเกาหลีใต้ที่กระโดดตึกย่านพระราม 3 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นทางทีมเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.สุวรรณภูมิ ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้ส่งตัวนายมูน วัง ซิค ให้แก่พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.) เวลา 12.00 น. ที่ สน.ลุมพินี ร.ต.ท.ศุภกร สังข์กลับ รอง สว.(สอบสวน)สน.ลุมพีนี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2552 โดยนายมูน วัง ซิค ได้ถูกตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ด้วยกัน หลังจากนั้นจึงได้หลบหนีออกนอกประเทศกลับไปยังประเกาหลี และนายมูน วัง ซิค ยังอ้างว่า ตนเองได้ถูกดำเนินคดีที่ประเทศเกาหลีแล้ว แต่ทางการเกาหลี ยังไม่ส่งข้อมูลมายังประเทศไทยแต่อย่างใด
ร.ต.ท.ศุภกร กล่าวอีกว่า จากการสอบถามนายมูน วัง ซิค ให้การปฏิเสธ พร้อมวางเงินประกันตัว จำนวนเงิน 500,000 บาท เพื่อสู้คดีในชั้นศาล โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นัดให้นายมูน วัง ซิคก เข้ามาสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.2559 พร้อมยังให้การอีกว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยนั้นเพื่อมารับศพบุตรชายที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 พ.ย ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายมุน ซอง จุน พักอาศัยอยู่กับมารดาชาวเกาหลี โดยเช่าห้องอยู่มานานกว่า 5 ปี ในราคา 14,000 บาทต่อเดือน ขณะเดียวกันมารดาของผู้ตายมีอาชีพเป็นพนักงานร้านเครื่องประดับ ย่านสีลม แต่เดินทางกลับประเทศเกาหลีไปตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ปล่อยให้บุตรชายพักอาศัยอยู่ภายในห้องเพียงลำพังจนกระทั่งเกิดเหตุสลด ทั้งนี้ผู้ตายไม่ได้เรียนหนังสือหรือทำงานแม้แต่อย่างใด อีกทั้งมีอุปนิสัยชอบเก็บตัวเงียบติดเกมส์เล่นอยู่แต่ภายในห้อง แต่ละวันจะลงมาซื้ออาหารเพื่อรับประทานเพียงแค่ 2 มื้อเท่านั้น
จากการตรวจสอบภายในห้องพบมีการเปิดเกมส์ในคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ ซึ่งเป็นเกมส์ชนิดการต่อสู้ ใกล้กันพบอาวุธหอกสีดำยาวประมาณ 100 เซนติเมตร ปักคาที่ปลายเตียง นอกจากนี้ยังพบคราบเลือดเริ่มจากบริเวณอ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำโดยมีใบมีดโกนชนิดพับซึ่งมีคราบเลือดติดอยู่ และมีหยดเลือดเป็นทางยาวไปจนถึงระเบียงห้องโดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สินแม้แต่อย่างใด ส่วนลักษณะบาดแผลถูกของมีคมกรีดข้อพับแขนซ้ายยาวประมาณ 2 นิ้ว มีบาดแผลฉีกขาดจนเป็นแผลฉกรรจ์ที่ต้นขาซ้าย ก่อนกระโดดลงมาเสียชีวิต