ชายมีอาการมึนเมาบุกห้องเช่าสาวเวียดนาม พยายามข่มขืน แต่ข้างห้องพังประตูเข้าไปช่วยได้ทัน ก่อนคนร้ายจะปีนขึ้นฝ้าเพดานเพื่อหลบหนี ตำรวจกล่อมให้มอบตัวไม่สำเร็จจึงต้องพังฝ้าจนผู้ต้องหาร่วงลงมา ควบคุมตัวไว้ได้
เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ร.ต.อ.วิทยา คงทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม รับแจ้งมีหญิงกำลังจะถูกข่มขืน บริเวณห้องเช่าไม่มีชื่อ ภายในซอยนวลจันทร์ 21 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจปฏิบัติการสายตรวจ สน.โคกคราม
ที่เกิดเหตุพบนายเสกสรร ปริญญะเสรี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.3 ต.เทพคีรี อ.นาวง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นผู้ต้องหากำลังปีนลงจากฝ้าเพดานบริเวณห้องดังกล่าว ตำรวจจึงเรียกให้ผู้ต้องหาลงมามอบตัวแต่ผู้ต้องหากลับจะหลบหนีโดยไม่ยอมลงจากฝ้าเพดานก่อนที่ตำรวจจะทำลายฝ้าเพดานจนผู้ต้องหาร่วงลงมาจึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ใกล้กันพบ น.ส.ลุงทิวัน อายุ 25 ปี และ น.ส.ออทิยู อายุ 23 ปี ชาวเวียดนาม ผู้เสียหายยืนหน้าซีดด้วยความตกใจ
ร.ต.อ.วิทยาเปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.ลุงทิวัน เพื่อนสาวของผู้เสียหายให้การว่า ตนและผู้เสียหายพักอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าวมาระยะหนึ่ง เมื่อช่วงเที่ยงคืนตนและผู้เสียหายได้ชวนกันออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาประกอบอาหารภายในห้อง ระหว่างทางที่ตนกำลังเดินกลับห้องพัก คนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะเเอบเดินตามหลังตนและผู้เสียหายมาจนถึงห้องพัก และตนก็ได้เข้าไปในห้องตามปกติก่อนที่คนร้ายจะมาเคาะประตูห้องตนจึงเปิดประตู คนร้ายรายนี้ก็เดินสวนเข้ามาภายในห้องทันทีและทำทีชวนคุยประมาณ 10 นาทีตนและเพื่อนพยายามไล่คนร้ายให้ออกจากห้องแต่คนร้ายไม่ยอมออกจากห้อง ก่อนที่ตนจะออกมาคุยโทรศัพท์ภายนอกห้อง คนร้ายจึงสบโอกาสรีบล็อกห้องจากด้านในและพยายามจะข่มขืนเพื่อนสาวของตนที่อยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวโดยใช้มือลวนลาม ก่อนที่ผู้เสียหายจะขัดขืนและต่อสู้จนข้าวของกระจุยกระจาย ตนได้ยินเสียงเพื่อนสาวกรีดร้องขอความช่วยเหลือ จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนข้างห้องก่อนที่จะพังประตูเข้าไป คนร้ายจึงตกใจและรีบหลบหนีด้วยการปีนขึ้นไปแอบบนฝ้าเพดานของห้องดังกล่าวและปีนมาจนถึงบริเวณทางเดินก่อนที่จะมาถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้
ร.ต.อ.วิทยาเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสอบสวนผู้ต้องหาได้เนื่องจากมีอาการมึนเมาและยังให้การวกไปวนมา หลังจากนี้ทางตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปรามจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมผู้เสียหายอย่างละเอียดว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร พร้อมทั้งสอบสวนพยามแวดล้อม ก่อนทางพนักงานสอบสวนก็จะทำการเชิญตัวผู้เสียหายและนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุอีกครั้ง