MGR Online - กลุ่มผู้เสียหายสาวร้อง ปคบ.เอาผิดเจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมสมุนไพร “ภูมิไท” หลังใช้แล้วมีสิวเต็มใบหน้า เผยนำไปตรวจพบสารปรอทปนเปื้อน
วันนี้ (17 ต.ค.) เวลา 13.30 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) น.ส.อภิฏา ลั่นสุวรรณ พร้อมด้วย น.ส.กิตติญา ลาดปะละ น.ส.พัชนิดา คงช่วย น.ส.ดารานาถ ทิพย์บรรพต น.ส.อาลีนา อับดุลสะตาร์ และ น.ส.มัณฑนา จันทานี เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.รังษิต ทะริยะ สว. (สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนางทัศนีย์ ดีเป็นแก้ว และนายภูมิไท ดีเป็นแก้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมสมุนไพรบำรุงหน้า ยี่ห้อ “ภูมิไท”
น.ส.อภิฏากล่าวว่า พวกตนเห็นโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าวระบุสรพพคุณว่าใช้แล้วใบหน้าจะขาวใสจึงเกิดความสนใจก่อนสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊กเพจชื่อ “ทัศนีย์ ดีเป็นแก้ว” และ “ภูมิไท ดีเป็นแก้ว” ซึ่งพวกตนใช้ผลิตภัณฑ์มาประมาณ 6-10 เดือน โดยระยะแรกใช้ได้ผล ใบหน้าขาวขึ้น แต่หลังจากนั้นทุกคนปรากฏเป็นผื่นเป็นสิวกันเต็มหน้าไปหมดจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เมื่อไปรักษาแพทย์ด้านผิวหนัง หมอบอกว่าไม่ได้เป็นเพราะแพ้ครีม แต่เป็นการระคายเคืองจากสารที่มีอยู่ในครีมบำรุงใบหน้าที่พวกตนใช้กัน ทำให้พวกตนได้ติดต่อไปสอบถามยังเจ้าของผลิตภัณฑ์ซึ่งอ้างว่าพวกตนแพ้เพราะไปใช้ครีมยี่ห้ออื่นหรือไม่ หรืออ้างว่าพวกตนฮอร์โมนไม่ปกติ พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดจากอาการแพ้ครีมสมุนไพรดังกล่าว
น.ส.อภิฏากล่าวอีกว่า จากนั้นพวกตนได้มาแจ้งความร้องทุกข์เบื้องต้นต่อพ.ต.ท.รังษิต ทะริยะ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดต่อเจ้าของผลิตภัณฑ์ “ภูมิไท” ที่พวกตนซื้อไปใช้แล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง รวมทั้งสงสัยว่าอาจมีสารต้องห้ามผสมอยู่ทำให้ได้รับความเสียหายจึงมอบเครื่องสำอางดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปตรวจสอบวิเคราะห์และทราบว่าผลการตรวจเครื่องสำอางพบสารปรอทปนอยู่
น.ส.อภิฏากล่าวต่อว่า ตนกับพวกได้ไปร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และมีการนัดพูดคุยกับทางเจ้าของผลิตภัณฑ์จนมีการนัดเจรจากันทั้งสองฝ่าย โดยอัยการนัดไกล่เกลี่ยมา 2 รอบ คือ รอบแรกวันที่ 30 ก.ย. แต่ทางฝ่ายเจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่มา ส่วนครั้งที่ 2 เวลา 09.30 น.ในวันนี้ แต่ทางตัวแทนของเครื่องสำอางค์ปฏิเสธว่าสินค้าของเขาก็ผ่านการตรวจพิสูจน์มาไม่พบสารปนเปื้อนเช่นกัน ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือใดๆ ทำให้พวกเราเดินทางมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.เพิ่มเติมเพื่อให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวในข้อหาจำหน่ายสินค้าที่มีสารต้องห้าม