xs
xsm
sm
md
lg

น.1 ถกคืบคดีแก๊งปลอมพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพหมกตู้แช่อำพรางคดี (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลประชุมความคืบหน้าคดีแก๊งทำพาสปอร์ตปลอมและฆ่าหั่นศพหมกตู้แช่อำพรางคดี เผยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกา-อังกฤษร่วมตรวจสอบฐานข้อมูลแก๊งผู้ต้องหาให้เกิดความชัดเจน



วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ สน.พระโขนง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่มีการจับกุมแก๊งผู้ต้องหาทำพาสปอร์ตปลอม และพบศพชายถูกหั่นเป็น 6 ชิ้น บรรจุในห่อพลาสติกสีดำ ถูกแช่เย็นอำพรางคดีไว้ พร้อมเปิดเผยก่อนการประชุมคดีดังกล่าวว่า ล่าสุดมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจและเตรียมขยายผล โดยจะมีการประชุมทั้งชุดสืบสวนและสอบสวนในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ส่วนการเดินทางมาวันนี้เพื่อดูการสอบสวนของคณะย่อยเพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุดซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้องพิสูจน์ อาทิ ผู้เสียชีวิตเป็นใคร มาจากไหน รวมถึงสืบหาสาเหตุการตาย หากทราบแล้วก็จะสามารถสรุปคดีดังกล่าวได้ง่ายขึ้น สำหรับศพชายชาวต่างชาติได้ประสานไปยังศูนย์ข้อมูลคนหายตรวจสอบแล้ว รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบตู้แช่แข็งและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ว่าซื้อมาจากสถานที่ไหน

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า การสอบสวนได้แยกออกเป็น 2 คดี คดีฆ่าอำพรางศพ และคดีปลอมแปลงเอกสาร โดยคดีฆ่าอำพรางศพนั้นจากการสอบสวนแม่บ้านชาวพม่าบอกว่าได้เคลื่อนย้ายตู้แช่แข็งดังกล่าวมาจากที่พักในซอยปรีดี พนมยงค์ 37 เมื่อ 4 เดือนที่แล้วมายังบ้านที่เกิดเหตุในซอยสุขุมวิท 56 และผู้ต้องหาสั่งไม่ให้ยุ่งกับตู้แช่ดังกล่าวซึ่งตนเชื่อว่าศพน่าจะเสียชีวิตจากที่อื่นมาก่อน

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า ส่วนคดีปลอมแปลงเอกสารนั้นได้ตรวจค้นในห้องเกิดเหตุพบอุปกรณ์ สารเคมี และยาเสพติดต่างๆ จำนวนมากพร้อมเตรียมขยายผลเพิ่มเติม นอกจากนี้ ในกรณีพาสปอร์ตที่ค้นพบทั้งหมดอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตทั้งสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เพื่อช่วยตรวจสอบฐานข้อมูลของกลุ่มผู้ต้องหาเนื่องจากยังไม่ชัดเจนและกลัวพาดพิงประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องค้นหาวัตถุพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จสิ้นสงสัยทั้งหมด ส่วนลายนิ้วมือเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 8 ข้อหาต่อนายแอรอน โทมัส เกเบล และนายเจมส์ ดักลาส เอกเกอร์ ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม, ร่วมกันปลอมซึ่งตราหรือแผ่นปะตรวจ อันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ, ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (ยาเค) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันปิดบัง อำพรางซ่อนเร้นศพ ส่วนนายปีเตอร์ แอนดริว คอลเตอร์ แจ้งเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหาเป็น 11 ข้อ ฐานความผิดเป็นต่างด้าวเข้ามาอาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

กำลังโหลดความคิดเห็น