MGR Online - จับแล้วพนักงานส่งของย่านวรจักรวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวเยาวราช ได้ทรัพย์สินไปกว่า 7 พันพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ อ้างเมาสุราเงินไม่พอใช้ พบประวัติจำคุก 10 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ 3 เดือนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ สน.พลับพลาไชย 2 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวโรจน์ โชติกาญจนรัศมิ์ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.ท.สาธิต มิตรรัก รอง ผกก.ป. ร.ต.อ.ศุภมิตร ตุ่นนิ่ม รอง สวป. ร่วมกันจับกุม นายชาญชัย บุนนาค อายุ 39 ปี ชาว จ.นนทบุรี ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปในเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมของกลางจักรยานยนต์สีแดงยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น Nmax ทะเบียน 5 กถ 3627 กทม. กระเป๋าถือสุภาพสตรีจำนวน 2 ใบ (ของผู้เสียหาย) เงินสดไทยจำนวน 2,500 บาท เงินสกุลเยนจำนวน 13,000 เยน (4,500 บาท) และพระหลวงปู่บุญรักษ์เลี่ยมทองจำนวน 1 องค์
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 59 เวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากทางวิทยุนารายณ์ว่า มีเหตุวิ่งราวทรัพย์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ น.ส.วาสนา จินดาวัฒนพงศ์ พร้อมเพื่อนจำนวน 4 คน ให้การต่อ ร.ต.อ.ศุภมิตร ว่าถูกคนร้ายมีรูปร่างลักษณะท้วม สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่เสื้อแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว ใช้จักรยานยนต์ก่อเหตุ และหลบหนีมุ่งหน้าไปทางแยกราชวงศ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิทยุเพื่อสกัดจับ ทั้งนี้โทรศัพท์ของผู้เสียหายได้ติดตั้งระบบติดตามโทรศัพท์มือถือ และพบว่าสัญญาณดังกล่าวหยุดนิ่งที่ซอยศิริชัย ต.บางเขน จ.นนทบุรี บ้านพักพี่สาวผู้ต้องหา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมกันจับกุมนายชาญชัย
จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายจะเลือกเหยื่อที่สะพายกระเป๋าทางด้านขวาและไม่เดินบนทางเท้าทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุ หากเหยื่อสะพายกระเป๋าทางด้านซ้ายและเดินบนทางเท้าก็อาจทำให้รถของผู้ก่อเหตุล้มลงได้ จึงอยากเตือนประชาชนว่าหากเวลาเดินซื้อของหรือที่ตามท้องถนนควรสะพายกระเป๋าทางด้านซ้ายมือ และประชาชนที่สวมใส่สร้อยทองก็ควรแต่งตัวให้มิดชิดเพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่านายชาญชัยมีคดีความในลักษณะดังกล่าวอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งที่ สน.ปทุมวัน สน.สําราญราษฎร์ จำนวน 2 คดี สน.บางขุนนนท์ 2 คดี ติดคุกมากว่า 10 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมา 3 เดือน และมาก่อเหตุซ้ำอีก
ด้านนายชาญชัยให้การรับสารภาพว่า ตนได้ประกอบอาชีพส่งของย่านวรจักรได้เงินเดือนเดือนละ 10,400 บาท แต่ขณะก่อเหตุมีอาการมึนเมา และเงินเดือนที่ได้มานั้นใช้จ่ายไม่เพียงพอจึงตัดสินใจก่อเหตุ สำหรับจักรยานยนต์นั้นเป็นของพี่สาวที่นำมาใช้ในการส่งของเท่านั้น
ด้าน น.ส.วาสนากล่าวว่า ตนและเพื่อนอีก 4 คนเป็นคนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาเดินเที่ยวที่เยาวราช ขณะกำลังเดินเลือกซื้อของกินบริเวณที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายมากระชากกระเป๋าของไปทำให้ตนล้มลงกับพื้นและเสื้อผ้าฉีกขาด จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงเข้าแจ้งความกระทั่งเวลา 03.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้และได้ทรัพย์สินคืน จึงอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาได้โดยเร็ว
ต่อมาเวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายชาญชัย ผู้ต้องหานำชี้จุดเกิดเหตุ ขณะชี้จุดประกอบคำรับสารภาพอยู่นั้นได้มีชาย (ขอสงวนชื่อ-สกุล) ได้เดินตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายนายชาญชัย พร้อมทั้งระบุว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานายชาญชัยได้ดักทำร้ายลูกน้องที่ทำงานในร้าน ซึ่งลูกน้องของตนเป็นคนช่วยเหลือผู้เสียหาย แต่โดนนายชาญชัยทำร้ายจนทำให้จักรยานยนต์ของลูกน้องเสียหลักล้มลงใกล้ที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่านายชาญชัยเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ย่านเยาวราชอยู่บ่อยครั้งแต่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ และระหว่างการนำชี้จุดมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจและชื่นชมเจ้าหน้าพร้อมทั้งปรบมือให้กำลังใจที่สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้อีกด้วย