การแต่งตั้ง “นายพลสีกากี” วาระประจำปี 2559 น่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากนิ่งสงบมาเกือบครึ่งเดือน นับตั้งแต่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ไฟเขียวให้ขยายเวลาการแต่งตั้งออกไปอีก 30 วัน จากเดิมต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค.2559 มาเป็นวันที่ 30 ก.ย.2559 เมื่อการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ที่ค้างคาคลุมเครือชักเข้าชักออกมาก่อนหน้านี้ เดินหน้าตามกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อย
ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ใจความว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง 4 ราย ดังนี้ 1.พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการประจำ สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.สง.ผบ.ตร.) (ทำหน้าที่บริหารงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม) ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) 2.พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ดำรงตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่บริหารงานป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรม) 3.พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ 4. พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.2559 เป็นต้นไป ยกเว้นพล.ต.ท.ศานิตย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 2558
แม้ตลอดช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559จะเงียบเหงา แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง เงียบสงบ เพียงแต่ไม่เป็นข่าว ไม่กระโตกกระตาก ฝุ่นควันการวิ่งเต้นของเหล่าสีกากียังคงตลบอบอวลทั่ว“กรมปทุมวัน”เหมือนเช่นปรกติกทุกๆปี ยิ่ง”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ประกาศมาตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่าเริ่มพิจารณารายชื่อแต่งตั้ง “นายพล”บ้างแล้ว ก็ยิ่งทำให้ ทุกลู่ ทุกเลน มีเสียงสตาร์ทเครื่อง เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่งเดินหน้ากันอุตลุด
รายชื่อแต่งตั้งที่เคยหลุดรอดออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะระดับ “ผู้บัญชาการ” หรือ “ผบช.” ถือเป็นตำแหน่งที่เบียดเสียดกันสูสี ไม่มีใครนิ่ง ไม่มีใครนอนมา ทุกเก้าอี้ล้วนสลับสับเปลี่ยนรายชื่อกันได้ทุกเวลา เพราะต่างวิ่งเข้าหา ผู้มีอำนาจ ผู้มีอุปการคุณของตัวเองกันชนิดหัวบันไดบ้าน หัวบันไดที่ทำงานไม่แห้ง เหมือนกัน
โผล่าสุดที่มีการวางตัวไว้ ระดับ รองผบ.ตร. และตำแหน่งเทียบเท่า พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) กระโดดเข้ามาเป็น รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา(สบ.10) ขยับมาเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ขึ้นมานั่ง รองผบ.ตร. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสสูงสุดขึ้น ที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. ขึ้นที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วยผบ.ตร.อดีตนายเวรพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ขึ้น ที่ปรึกษา(สบ.10) ส่วนอีก 1เก้าอี้วัดกันระหว่างพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้ามกับพล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม 2ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ระดับ ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส 33% มี พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร ผบช.รร.นรต. พล.ต.ท.ดุสิต สังขะเมฆะ นรป.(สบ8) พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผบช.ศ. และพล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ส่วนความรู้ความสามารถน่าจะมีชื่อ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.สงป. พล.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สะอาดพรรค ผบช.สตส. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 และพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสตร์ ผบช.สทส.ก็มีลุ้นขึ้นเที่ยวนี้
ระดับ ผบช. ฝุ่นยังคงตลบแทบทุกเก้าอี้ และกระทบกันเป็นเกลียวคลื่น ขนาดที่ว่าแน่ๆอย่าง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 เพื่อนเลิฟพล.ต.อ.จักรทิพย์ และขวัญใจ”บิ๊กป้อม”พล.องประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตีตราจองเก้าอี้ “ผบช.น.”มาตั้งแต่ไก่โห่ แต่พอเข้าโค้งท้ายๆ ดูเหมือนชื่อพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ที่ทำงานเข้าตาพล.องประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเพิ่งได้นั่งเก้าอี้ ผบช.น.เต็มๆก้นไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้คำสั่งจะย้อนหลังให้ไปถึงต.ค.2558ก็มีแนวโน้มจะได้ต่อวีซ่าอีกปี ทำให้“บิ๊กหยม”พล.ต.ท.ชาญเทพ จะถูกบิดไปนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.1รับไม้ต่อจากเพื่อนช้าง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์
เก้าอี้ ผบช.ภ.5 เดิมมีชื่อ นรต.รุ่น 35 ที่ได้รับแรงหนุนจากขั้วสีเขียวจะได้ มาถึงตอนนี้มีชื่อพล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผบช.ก. นรต.34วิ่งเข้าโค้งมาเบียด ชนิดแรงปลายดีกว่า เพราะพื้นที่ภาคเหนือเป็นถิ่นเก่า และเคยสร้างผลงานสมัยได้รับมอบหมายให้เป็น ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ จนกลุ่มก้อนการเมืองในพื้นที่ไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหว มีโอกาสขึ้นมาคุมพื้นที่ภาคเหนืออีกครั้ง รองรับหากจะมีการเลือกตั้งในช่วงปี 60 เช่นเดียวกับเก้าอี้ ผบช.หน่วยหลักๆอื่นๆ ก็ยังไม่นิ่ง ไม่เว้นแม้แต่พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ที่คุ้นเคยกับกำนันสุเทพ ถึงจะขอไม่ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ เพราะจะเกษียณในปี 2560 หรือปีหน้า เดิมไม่มีชื่อขยับขยายไปตรงไหน แต่ถึงตอนนี้เก้าอี้ก็เริ่มไม่มั่นคงเช่นเดียวกัน อาจจำต้องหมุนไปนั่งเก้าอี้ตัวอื่น
ว่ากันว่า เหตุผลที่เก้าอี้ “ผบช.” ที่ดูเหมือนจะมีการวางตัวกันไว้แล้วจากขั้วพี่ใหญ่ที่กุมอำนาจสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้ในมือ แต่มาระยะหลังดูเหมือนแรงของกลุ่มนี้จะเริ่มแผ่ว บัญชีแต่งตั้งที่วางกันไว้ก็สั่นคลอนตามไปด้วย เหมือนภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นกับโผทหารที่เพิ่งผ่านพ้นไป ดังนั้นการแต่งตั้ง “นายพลสีกากี”ครั้งนี้ จะนิ่ง จะสงบ จะชัดเจน ก็คงต้องรอหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บินกลับจากไปประชุมสหประชาติที่สหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่บินไปราชการที่ประเทศฝรั่งเศส ช่วงตั้งแต่วันที่ 19-23 ก.ค.2559กลับมาก่อน เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการแต่งตั้ง “นายพลสีกากี”กันอีกครั้ง ก่อนจะจัดทำบัญชีรายชื่อเสนอที่ประชุม ก.ตร.สัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนก.ย.นี้ เพราะว่ากันว่าช่วงหลัง “บิ๊กตู่” ดูจะใส่ใจการแต่งตั้ง”ตำรวจ”ด้วยตัวเองเป็นพิเศษ.