MGR Online - สองผู้ควบคุมห้องขังดีเอสไอให้ปากคำพนักงานสอบวนคดี “ธวัชชัย” เพิ่มเติม พร้อมให้สาบานตนก่อนสอบปากคำ ซักประเด็นรูปถ่ายกว่า 100 รูป ระบุรูปถ่ายวันเกิดเหตุใกล้เหตุการณ์น้อยมาก ถ่ายเพื่ออะไรหรือเป็นหน้าที่ จากคำให้การ 17 ปาก หากคาดเคลื่อนต้องเรียกสอบใหม่จนกว่าจะกระจ่าง
จากกรณีนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ที่ถูกควบคุมไว้ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 6 ดีเอสไอ ได้ใช้ถุงเท้าผูกคอกับลูกกรงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ปรากฏว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้คือภาวะตับแตก เลือดออกในช่องท้อง และขาดอากาศหายใจ
วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายชยพล หวานชะเอม อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องขัง และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ รองหัวหน้าควบคุมผู้ต้องขัง เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ต่อ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว.(สอบสวน) และร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) โดยมีนายอรรถพร สุทธิบุตร อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 4 ร่วมสอบปากคำ
ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า แนวทางการสอบสวนครั้งที่ 2 ของนายชยพล หวานชะเอม หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขัง พ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ รองหัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นการสอบสวนเพิ่มเติมนั้น คือ ประเด็นเรื่องรูปถ่ายซึ่งเป็นภาพที่นายชยพล และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ถ่ายเอาไว้ บริเวณห้องควบคุมและชั้นล่างห้องควบคุม รูปภาพดังกล่าวทางดีเอสไอส่งมาเป็นไฟล์ให้พนักงานสอบสวน เมื่อทำการตรวจสอบพบว่ามีบางรูปที่จะใกล้ชิดกับเหตุการณ์น้อยมาก นี่คือประเด็นที่หนึ่งที่จะมาเรียกมาสอบว่าได้บันทึกภาพไปตอนไหน อย่างไร ทำไมการสอบสวนครั้งแรกถึงไม่เปิดเผยภาพออกมา บางภาพสื่อมวลชนเคยเอาไปลงแล้ว (ภาพที่กำลังปั๊มหัวใจ) ส่วนประเด็นอื่นที่จะสอบสวนเพิ่มเติมก็มีหลายประเด็นเช่นกัน การสอบสวนวันนี้ต้องการได้ความจริงที่ชัดเจนและถูกต้อง จึงให้นายชยพลและ พ.ต.ท.ไพโรจน์สาบานตน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 163 วันนี้แยกสอบเป็นสองห้องเนื่องจากต้องการได้ความจริง โดยพยานแต่ละคนได้สาบานตนแล้วพูดในสิ่งที่พวกเขารับผิดชอบ ซึ่งเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนเห็นอาจจะคนละเวลา จะต้องนำคำให้การครั้งนี้และคำให้การเดิม พร้อมทั้งคำให้การของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะมาประกอบกันด้วย การเข้าช่วยเหลือนายธวัชชัยเป็นเรื่องของการปฏิบัติการภายในห้องควบคุมจะต้องมีความปลอดภัย
พ.ต.อ.มานะกล่าวอีกว่า จากสอบสวนพบในวันที่เกิดเหตุนั้น นายชยพลพักอยู่ที่ห้องทำงาน และ พ.ต.ท.ไพโรจน์นอนอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาเลขที่ 6005 ซึ่งว่างอยู่จึงเข้าไปนอนพัก สำหรับห้องของนายธวัชชัยเลขที่ 6008 นั้นไม่มีคนเฝ้าหน้าห้อง แต่มี รปภ.อยู่บริเวณโดยรอบอยู่แล้ว ตามคำให้การพบว่าบุคคลที่เห็นนายธวัชชัยเสียชีวิตเป็นคนแรกคือ รปภ. ประเด็นที่ 2 คือเรื่องของช่วงเวลาในการแจ้งเหตุ นาทีต่อนาทีว่าได้ปฏิบัติการอย่างไร การช่วยเหลืออย่างไร เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่มีภาพกล้องซีซีทีวีจึงต้องการให้พยานทั้งสองทวนความจำของทั้งสองคน
พ.ต.อ.มานะกล่าวอีกว่า สำหรับภาพ 100 กว่าภาพที่ทางดีเอสไอส่งมานั้นจะต้องทำการตรวจสอบ ทางดีเอสไอระบุมาเลยว่าภาพทั้งหมดเป็นภาพที่นายชยพลและพ.ต.ท.ไพโรจน์เป็นคนถ่าย จะต้องนำมาซักถามว่าถ่ายตอนไหน ถ่ายเพื่ออะไร หรือเป็นหน้าที่ที่ต้องถ่าย โดยการเข้าให้การครั้งแรกนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงรูปภาพดังกล่าวเลย จากคำให้การจากพยานทั้ง 17 ปาก หากพบความคลาดเคลื่อนก็อาจจะต้องเรียกมาสอบจนกว่าจะทราบข้อเท็จจริง และในวันที่ 21 ก.ย.นี้จะเดินทางไปสอบปากคำ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เวลา 13.00 น. ในประเด็นเกี่ยวกับรายงานตรวจสอบว่าทางแพทย์มีความเห็นอย่างไร สงสัยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบวัดขนาดความกว้าง ความสูงของห้อง และบริเวณประตูห้องควบคุมผู้ต้องหา