MGR Online - “อั้ม-อธิชาติ” ผู้จัดละคร “เจ้าเวหา” ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท “บริษัท บลูริบบอน” เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 16 ม.ค.ปีหน้า
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายอธิชาติ หรืออั้ม ชุมนานนท์ อายุ 35 ปี นักแสดงดังช่อง 3 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท หกหนุมาน จำกัด ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และละคร เดินทางมามายื่นฟ้องบริษัท บลู ริบบอน แอดเวอร์ไทซิ่ง ซึ่งรับจัดงานแสดง, นายวินัย เยี่ยมประเสริฐ กรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท และนายปฏิภาณ วนัสบดี ที่ปรึกษากฎหมายบริษัท เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 และ 332 พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยรอยละ 7.5 ต่อปี
ตามคำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2559 นายปฏิภาณ จำเลยที่ 3 ได้แถลงข่าวในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 1-2 ต่อสื่อมวลชนที่อาคารวอเตอร์ลีฟ ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ซึ่งเนื้อหามีการกล่าวถึงการจ่ายค่าจ้างนักแสดงว่ายังมีการค้างจ่าย และข้อความทำนองว่าให้โจทก์และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหาและให้หยุดกระทำการที่ทำให้จำเลยที่ 1-2 เสียหาย และเนื้อความการแถลงข่าวส่วนอื่นซึ่งเป็นการกล่าวหาโจทก์ทำให้สาธารณชนที่ได้รับชมการแถลงข่าวนั้นเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นคนโกหก ใช้อุบายบิดเบือน ข้อเท็จจริงว่าที่โจทก์เคยออกมาแถลงข่าวว่า บริษัท หกหนุมานฯ ได้ชำระเงินค่าจ้างนักแสดงแล้วนั้นแท้จริงโจทก์ยังเป็นหนี้จำเลยทั้งสองและไม่ยอมชำระหนี้ รวมทั้งยังติดค้างค่าจ้างนักแสดง การกระทำของจำเลยนั้นทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์เป็นบุคคลประสบปัญหาทางการเงินไม่น่าทำธุรกิจด้วย และโจทก์ไม่มีความสามารถในการจัดทำและผลิตละครโทรทัศน์ชุด “เจ้าเวหา” รวมทั้งไม่มีคุณธรรมเอาเปรียบจำเลยที่ 1-2 ในการค้างชำระเงินซึ่งเป็นหนี้บริษัทจำเลยที่ 1 อยู่แต่กลับนิ่งเฉย ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา
ถ้อยคำการแถลงข่าวของจำเลยที่ 3 ในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 1-2 จึงเป็นการใส่ความโจทก์ทำให้เสียชื่อเสียง โดยก่อนการแถลงข่าวของนายปฏิภาณ จำเลยที่ 3 นั้น บริษัทจำเลยที่ 1 ได้เผยแพร่ข้อความเชิญชวนสื่อมวลชนต่างๆ ให้มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวซึ่งมีการระบุสถานที่ และเวลาการแถลงข่าวไว้ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่จะให้มีการเผยแพร่การแถลงข่าวต่อสาธารณชนในวงกว้าง ซึ่งโจทก์เป็นนักแสดงมายาวนานกว่า 15 ปี เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ได้รับรางวัลการแสดงเป็นจำนวนมาก และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโจทก์ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี โดยการหมิ่นประมาทของจำเลยทั้งสามนั้นทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพโจทก์อย่างร้ายแรง จึงขอเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้ง 3 ด้วยเป็นเงิน 50 ล้านบาท และขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 5 ฉบับเป็นเวลาติดต่อกัน 7 วันด้วย ศาลรับคำฟ้องไว้ในสารบบ คดีหมายเลขดำที่ อ.2954/2559 โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 16 ม.ค.ปีหน้า เวลา 09.00 น.
ภายหลัง อั้ม-อธิชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ได้มายื่นฟ้องบุคคลกลุ่มบุคคลและบริษัทที่หมิ่นประมาทกล่าวหาตนโดยให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและครอบครัว พร้อมเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท คดีนี้ขอชี้แจงว่า บริษัท หกหนุมาน ของตนได้เป็นผู้ผลิตละครอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสัญญาการผลิต และควบคุมการผลิตตั้งแต่แรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยมีนักแสดงอิสระบางส่วน ทีมงานและบริษัทอื่นที่บริษัท หกหนุมาน ว่าจ้างมาร่วมทำงานด้วยก็ได้จ่ายเงินให้ทุกฝ่ายหมดแล้ว รวมทั้งบริษัทได้ออกใบกำกับภาษีให้ทุกคน สามารถตรวจสอบได้ บริษัทไม่คิดที่จะทำอะไรที่ผิดต่อกรมสรรพากร สำหรับบริษัทที่รับผิดชอบในการว่าจ้างนักแสดงมา ทางเราก็ได้จ่ายเงินให้แล้ว แต่ไม่ทราบว่าบริษัทดังกล่าวได้จ่ายเงินให้แก่นักแสดงหรือยัง และไม่ทราบว่าบริษัทดังกล่าวว่าจ้างนักแสดงในรูปแบบไหน แต่ตนได้เห็นเอกสารระบุว่าบริษัทดังกล่าวได้ว่าจ้างและติดต่อนักแสดงจริง โดยคิดค่าตัวนักแสดง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คู่กรณีอ้างว่ามีหลักฐานการคุยทางแชตไลน์ว่าอุ้มยอมรับเป็นหนี้คู่กรณี 27 ล้านบาทใช่หรือไม่ อั้ม-อธิชาติกล่าวว่า การคุยธุรกิจมีหลายขั้นตอน อาจจะมีการตัดตอนข้อความบางส่วน ดังนั้นจะต้องดูรายละเอียดการคุยทั้งหมดว่าคุยเรื่องอะไร ตนและครอบครัวถูกคู่กรณีหมิ่นประมาท ซึ่งตนไม่ขอตอบโต้ และไม่ขอเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ขอใช้สิทธิทางกฎหมายพิสูจน์ความจริงเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องระหว่างบุคคล แต่เป็นเรื่องของบริษัท ถ้าต่างฝ่ายต่างมีข้อมูลขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ละครเจ้าเวหา ขอเรียนว่าตนได้พูดคุยกับผู้เขียนบทประพันธ์เรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ว่าตนต้องการอะไร อยากให้บทเป็นแบบไหน ซึ่งผู้เขียนบทประพันธ์ก็ได้แจ้งว่าตนได้สิทธิผลิตละครเรื่องนี้ตามกฎหมาย
“มั่นใจว่าบริษัทฯ ไม่ผิด เราทำงานมาตลอด 8-9 เดือนกับทีมงานหลายคน ทุกคนก็ได้ค่าจ้างและมีพยานหลักฐานที่ถูกต้องสามารถพิสูจน์ความจริงได้ ในส่วนช่องทรูก็ได้มีการติดต่อมาแสดงความเป็นห่วง ความรู้สึกตอนนี้บรรยายไม่ถูก เอาเป็นว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวขอให้ต่างฝ่ายต่างทำงาน ในส่วนของคู่กรณีทางบริษัทก็ได้ยกเลิกการร่วมงานไปนานแล้ว ในฐานะทีมโปรดักชัน ก็พยายามทุกขั้นตอนเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด อาจมีผิดพลาดบ้างก็พร้อมปรับแก้ตามวัตถุประสงค์ที่ช่องทรูต้องการและให้ผู้ชมได้ประโยชน์” อั้ม-อธิชาติกล่าว