สน.บางนา บุกจับหนุ่มสมุทรปราการคาห้องพัก หลังพลเมืองดีแจ้งข่าวลอบค้ายาเสพติด ตำรวจเค้นสอบรับสารภาพซุกยาล็อตใหญ่ไว้ ตามค้นพบของกลางยาบ้ามูลค่า 1.5 ล้านบาท
ที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.ปรัชญา บุญยืน สว.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จับกุมตัว นายธีรพร หรือธี กิ่งสวัสดิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2145 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ยาบ้า 25,162 เม็ด มูลค่ากว่า 1,509,720 บาท ลูกกุญแจ 2 ดอก และใบรับรองผลการตรวจสารเสพติด 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 2145 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 กันยายน เวลาประมาณ 20.30 น.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 กันยายน เวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจ สน.บางนา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายไทย มีลายสักเต็มตัว อายุประมาณ 35 ปี ทราบเพียงชื่อเล่นว่าธี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาเสพติดในย่านซอยแบริ่ง-ลาซาลมานาน ทาง พ.ต.ต.อภิโชคจึงนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์จนทราบว่าบุคคลดังกล่าวได้เช่าห้องพักภายในโรงแรม 189 รีสอร์ท ซอยแบริ่ง 30 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จากนั้นได้ขอเข้าตรวจค้นห้องพักแห่งนี้จนพบตัวนายธีรพรอยู่ภายในห้องพักซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยรับเพียงว่าเพิ่งเสพสารเสพติดมา แต่ทว่ามีท่าทีมีพิรุธ ทางตำรวจจึงนำตัวตรวจสารเสพติดก่อนเชิญตัวสอบสวนที่ สน.บางนา
ต่อมาเมื่อทางตำรวจทำการสอบสวน จนกระทั่งนายธีรพรยอมรับว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดล็อตใหญ่ไว้ที่บ้านพักบ้านเลขที่ 2145 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จากนั้นทางตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบพบของกลางดังกล่าวเก็บไว้ในล็อกเกอร์ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง จึงทำการตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ประกอบกับติดยาเสพติด กระทั่งมีนายเอ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) เพื่อนตนที่รู้จักกันมานับ 10 ปี และอยู่ในวงการค้ายาเสพติด ในย่านสุขุมวิท ชักชวนให้ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดโดยสั่งการให้ตนไปรับยาเสพติดจำนวน 38,000 เม็ด มาเก็บรักษาไว้ที่บ้านพัก แต่ละครั้งนายเอจะโทรศัพท์มาสั่งให้ตนนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าตามจุดนัดหมายแล้วจะได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท จนทำให้เหลือยาเสพติดของกลางเพียงเท่านี้ นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเจ้าตัวเคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธปืน พื้นที่ สน.พระโขนง เมื่อปี 2555 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
