ในที่สุดก็เกิดรายการฟ้าผ่า!!!“กรมปทุมวัน” การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพล” ตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ถึง ผู้บังคับการ(ผบก.) วาระประจำปี2559 ที่ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559ที่ขีดเส้นใต้เอาไว้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31สิงหาคม มีอันต้องโดน “โรคเลื่อน” ออกไป อย่างน้อยๆ 1 เดือน
โดยในการประชุม ก.ตร.วันที่ 30ส.ค.ที่จะถึงนี้ เวลา 14.30 น. อาคาร 1 ชั้น 2สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมานั่งหัวโต๊ะทำหน้าที่ ประธานก.ตร. ประชุมเพื่อพิจารณาวาระขอเลื่อนการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปี 2559 ออกไปอีก 1 เดือน
จากเดิมต้องแล้วเสร็จในวันที่ 31 สิงหาคมเป็นไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2559 .
ว่ากันว่า เหตุผลที่ทำให้โผ”นายพล”สีกากี โดน”โรคเลื่อน”เล่นงานจนกลายเป็นโรคประจำของการแต่งตั้งตำรวจทุกระดับชั้น ตั้งแต่ประทวน นายพัน ยันนายพล มาจากผลพวงคำสั่งหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา44 ให้อำนาจประธาน ศอตช.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเปรียบเทียบผลการสอบสวนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ทำให้การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ที่ ก.ตร.เพิ่งแต่งตั้ง”นายพล”ที่พ้นความผิด จากกรณี คสช.ให้ต้นสังกัดตรวจสอบความบกพร่องตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุบ่อนการพนัน และการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ต้องรอจนกว่าการ”รีเช็ค”ของ ศอตช.จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
การแต่งตั้ง”นายพล” นอกฤดูครั้งนั้น ก.ตร.มีมติแต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. เป็น ผบช.น. “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ลูกน้องก้นกุฏิ”บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. “บิ๊กโอ๋”พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา น้องเลิฟ”ผบ.แป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ดึงตัวมาช่วยงานในการทำบัญชีแต่งตั้ง เป็น ผบก.ภ.จ.สระบุรี และ “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร อดีตผู้การฯทะเบียนพล ที่สนิทสนมกับ”บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว เลขาฯส่วนตัว”บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร ไปเป็น ผบก.ภ.จ.นครนายก
ทั้งนี้มีกระแสข่าวลือสะพัดถึงแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมไว้หากการ “รีเช็ค” ผลการสอบสวนเกี่ยวกับความบกพร่องเหตุค้ามนุษย์ของ ศอตช. ยืดเยื้อเกิน 1 เดือน อาจมีการเสนอ ก.ตร.ในช่วงต้นๆเดือนก.ย. ถอนมติแต่งตั้ง “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร ที่ไปเป็น ผบก.ภ.จว.นครนายก แล้วให้กลับไปเป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ตามเดิม เพื่อรอให้ ศอตช.ตรวจสอบเหตุค้ามนุษย์ในพื้นที่ให้เสร็จก่อน และการแต่งตั้ง “นายพล” ที่เหลือจะได้เดินหน้าไปได้ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ช่วงปลายๆเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี แม้การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 จะถูกเลื่อนออกไป โผรายชื่อแต่ละตำแหน่งยังคงไม่นิ่ง เพราะต้องรอดูผลการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูประกอบ เนื่องจากหากการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ยังไม่สิ้นสิ้นสมบูรณ์ การแต่งตั้งวาระประจำปีบางตำแหน่งก็จะมีผลกระทบ อย่างเช่นตำแหน่ง “ผบช.น” ที่ก.ตร.แต่งตั้งพล.ต.ท.ศานิตย์ เป็น ผบช.น. ในการแต่งตั้งนอกฤดูและให้มีผลย้อนหลังไป 9 เดือนที่เคยทำหน้าที่ รักษาการผบช.น. ถ้าจะมีการย้ายไปเป็น ผบช.ภ.2ตามกระแสข่าวลือที่ออกมา นั่นก็หมายถึงพล.ต.ท.ศานิตย์จะไม่ได้เป็น ผบช.น.เลย จะย้ายจาก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ไปเป็น ผบช.ภ.2
แล้วเก้าอี้ “ผบช.น.”ที่ ก.ตร.เคยมีมติแต่งตั้งจะตอบสังคมอย่างไร!?
หรือถ้าไม่ขยับพล.ต.ท.ศานิตย์ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามมติ ก.ตร.แต่งตั้ง นอกฤดูเดิม พล.ต.ท.ศานิตย์ ก็จะเป็น ผบช.น. ก็จะไปกระทบกับการจัดวางตัวนายพลวาระประจำปี ที่มีการวางตัวพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7เพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โยกมาคุมเมืองหลวง ก็เป็นอันสะดุด
บัญชีแต่งตั้งที่จัดเอาไว้ก็ต้องมีการรื้อกันใหม่ ดังนั้นทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ ก็ยังคงต้องร้องเพลง “รอ” ไปก่อน ยังไม่มีความแน่นอน บนความไม่แน่นอนเช่นเคย
ทว่าถึงจะยังไม่มีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ให้ลุ้น ให้จับตา เพราะแม้ตัวคนจะยังไม่สามารถวางเอาไว้ได้ชัดเจน แต่สิ่งที่น่าสนใจในการแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ คือ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559ฉบับที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2559ซึ่งจะนำมาใช้ในการแต่งตั้งครั้งนี้
ในบทที่ 3วิธีการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ มีการระบุการคัดเลือกแต่งตั้งระดับ “นายพล”ไว้ที่แตกต่างไปจากการแต่งตั้ง “นายพล”ที่ผ่านๆมา
โดยข้อ 28การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาดังนี้
(1) ข้าราชการตำรวจที่จะคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึงระดับ ผู้บังคับการ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละสามสิบสามของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นั่นย่อมแสดงความแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ ไม่ใช่แค่พวกแก่พรรษาเท่านั้นที่จะได้ขยับสูงขึ้น กลุ่ม”ดาวรุ่ง” ประเภทมีผู้สนับสนุนดีมีดอการพุ่งตำแหน่งสูงขึ้น ตั้งแต่ระดับ รองผบ.ตร.ลงมาถึง ผบก.เลย ไม่ได้เรียงแถวอาวุโสขึ้นแบบเดิมๆที่ระดับ “ผู้ช่วยผบ.ตร.” ขึ้น “รองผบ.ตร.”และ” ผบช.”ขึ้น “ผู้ช่วยผบ.ตร.”จะยึดอาวุโสทั้งหมด
คราวนี้เมื่อจัดกลุ่มให้พวกอาวุโส 33% และที่เหลือพิจารณาจากความรู้ความสามารถ พวกดาวรุ่งพุ่งแรงต่างก็วิ่งกันฝุ่นตลบ”กรมปทุมวัน” โดยเฉพาะระดับ ผบช.ที่เหลืออายุราชการอีก 3ปีขึ้นไปต่างก็ต่างพยายามขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ไว้ เพราะนั่นย่อมหมายถึงการจ่อติดยศ พล.ต.อ. ก่อนเกษียณอายุราชการแน่ๆ อย่างน้อยๆก็ต้องนั่งเก้าอี้ รองผบ.ตร. หรือจับพลัดจับผลูอาจได้เป็น ผบ.ตร.
ไม่ว่าจะเป็นพล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. เกษียณปี 2566 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เกษียณปี 2564หรือพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1เกษียณปี 2562 เป็นต้น
การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ครั้งนี้จึงน่าสนใจทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ เชื่อว่าต้องมีตัวจี๊ดๆ ตัวเจ็บๆ พุ่งทะยานออกมาสั่นสะเทือนกรมปทุมวันแน่นอน. .
.