MGR Online - “สัมพันธ์” ทนายความส่วนตัว “ธัมมชโย” พร้อมพวกเดินทางเข้าพบ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ รับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงิน หลังมีชื่อรับเช็คอดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น เข้าเทกโอเวอร์ บริษัท เอ็มโฮมฯ ยันไม่เกี่ยวข้อง พร้อมเผยลูกความยังอาพาธอยู่ในวัด ไม่ได้หารือหลังศาลจังหวัดเลยออกหมายจับคดีรุกป่า
วันนี้ (22 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความส่วนตัวของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อม นายบันลือ กองไชย และ นายธวัชกิตต์ ธนานันท์ตระกูล เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน หลังปรากฏชื่อเป็นผู้รับเช็คแทนจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวนเงิน 321 ล้านบาท ก่อนนำไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด โดยใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง
นายสัมพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา และได้ให้ข้อเท็จจริงบางส่วน หลังจากนี้ เตรียมไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนในคราวต่อไป แต่ยังไม่ได้ระบุเวลา โดยตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของ นายศุภชัย แต่อย่างใด ส่วนที่มีหลักฐานว่า บริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ปรากฏชื่อตนเป็นคณะกรรมการและถือหุ้นบริษัท ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2552 - 2555 เป็นความจริง แต่เป็นในฐานะการได้สิทธิ์มาเพื่อเข้าเทกโอเวอร์บริษัทดังกล่าวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ดินและหนี้สิน เหมือนกับการทำธุรกิจทั่วไป
นายสัมพันธ์ เผยอีกว่า ช่วงปี 2552 ตน นายจำลอง และ นายบันลือ เป็นกลุ่มนักธุรกิจเข้าเทกโอเวอร์ บริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งเป็นหนี้สถาบันการเงินกว่า 900 ล้านบาท จากนั้น นายศุภชัย ได้ยื่นข้อเสนอเจรจากับกลุ่มตน จำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อบริษัทดังกล่าว ในนามสหกรณ์ฯคลองจั่น พร้อมได้จ่ายเงินงวดแรกมาแล้ว 280 ล้านบาท เนื่องจากอ้างว่า สหกรณ์ฯ คลองจั่น ต้องการที่ดินเปล่าย่านตลาดไท ประมาณ 300 ไร่ ของบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด พร้อมได้ทำสัญญาตกลงกันเรียบร้อย โดยตนเป็นกลุ่มนักธุรกิจจะได้ส่วนต่างผลกำไรหากดำเนินการเสร็จสิ้น ประมาณ 30 - 40 ล้านบาท
“แต่แล้วทาง นายศุภชัย ในนามสหกรณ์ฯ คลองจั่น ไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด กลุ่มผมจึงไปทำสัญญากับเจ้าหนี้ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อขอขยายเวลา และได้นำที่ดินเปล่าย่านตลาดไทของบริษัทดังกล่าวไปแบ่งขายเพื่อชดใช้หนี้แทน ก่อนได้เงินนำไปชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินทั้งหมดแต่ยังคงเหลือที่ดินอีกกว่า 60 ไร่ ต่อมา ในปี 2555 นายธวัชกิตต์ ซึ่งเป็นตัวแทน นายศุภชัย ได้มาขอเงินคืนที่ร่วมลงทุนไปก้อนแรก 280 ล้านบาท เพราะเป็นเงินจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น โดยผมเห็นว่าเมื่อชำระหนี้หมดแล้ว ยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่ ก็คือ ที่ดินบางส่วน จึงขายที่ดินดังกล่าวเพื่อเอาเงินไปชำระหนี้สหกรณ์ฯ คลองจั่น ไปเรียบร้อยหมดแล้ว” นายสัมพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนไม่ได้เจอพระธัมมชโย เลยแต่เมื่อช่วง 2 วันก่อนที่ผ่านมา ตนได้พบกับแพทย์ที่ทำการรักษาดูแล บอกว่า ท่านยังอาพาธอยู่ และยังคงอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย รวมทั้งไม่ได้มีการปรึกษาเรื่องคดีความ หลังศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับแต่อย่างใด เนื่องจากในทีมทนายมีจำนวนมากประมาณ 20 - 30 คน หากมีเรื่องสำคัญอะไรก็จะนัดมาประชุมหารือกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
ด้าน พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับคดีพิเศษ ที่ 99/2558 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ เสริมชีพ นายจำลอง ทับสุวรรณ์ นายบันลือ กองไชย และ นายธวัชกิตต์ ธนานันท์ตระกูล มารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้รับเช็คจาก นายศุภชัย ไปซื้อหุ้น บริษัท เอ็มโฮมฯ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด ก่อนนำไปปิดบังซ่อนเร้นด้วยการซื้อหุ้นของ บริษัท เอ็มโฮมฯ แทน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในวันนี้เดินทางมาเพียง 3 ราย โดยไม่มี นายจำลอง ทับสุวรรณ์ มาด้วย เนื่องจากติดบวชพระเป็นเวลา 15 วัน นอกจากนี้ นายสัมพันธ์กับพวกได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะชี้แจ้งกลับมาเป็นพยานเอกสารในภายหลังอีกครั้ง