xs
xsm
sm
md
lg

ตัวเงินตัวทองเป็นเหตุ ป้าชะลอให้ข้ามถนน กระบะตามหลังแซงไม่พ้นประสานงารถพ่วงดับ 1 เจ็บ 3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ป้าวัย 62 ขับเก๋งชะลอให้ตัวเงินตัวทองข้ามถนน กระบะขับตามหลังเบี่ยงขวาแซงไม่พ้น เจอรถพ่วงขับมาประสานงาอัดก๊อบปี้ดับคาซากรถ ส่วนโชเฟอร์รถพ่วงขาหักทั้งสองข้าง ป้าขับเก๋งปลอดภัย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 59 พ.ต.ท.สมอาจ หมั่นอุตส่าห์ สารวัตรสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณหมู่ 8 ถ.ไทรน้อย-วัดต้นเชือก ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนทาง พบร่างผู้เสียชีวิตอัดก๊อบปี้อยู่ภายในรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ถห 1178 กรุงเทพมหานคร บรรทุกดอกกล้วยไม้กำลังเดินทางไปส่งสินค้าให้ลูกค้าที่ อ.สามพราน สภาพด้านหน้ารถพังยับ ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีเหลือง ทราบชื่อภายหลังคือนายณัฐพงศ์ คุ้มเจริญ อายุ 21 ปี ใกล้กันเป็นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น FXZ 320 ทะเบียนหัวลาก 83-1218 กทม. ท้ายพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพหน้ารถพังยับ ทราบชื่อคนขับคือนายอุทัย ผิวเกลี้ยง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 39/1 ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ร่างอัดก๊อบปี้คาพวงมาลัย ขาหักทั้งสองข้าง นอกจากนี้ยังมีภรรยาและลูกสาวอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างนำตัวออกจากตัวรถจากนั้นผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลไทรน้อย

อีกคันเป็นรถของนางวงศ์เดือน ชิลเดอร์ส อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 88/7 หมู่8 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน ฆฐ 4900 กทม. สภาพหน้ารถพังยับเช่นกัน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้าที่ตกใจ

จากการสอบสวนนางวงเดือนเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นตัวเงินตัวทองกำลังเดินข้ามถนนจึงชะลอความเร็วลง จากนั้นรถยนต์กระบะปิกอัพที่ขับตามมาพายายามจะแซงขวา เป็นจังหวะเดียวกับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ขับสวนทางมาทำให้เกิดการชนประสานงาดังกล่าวส่งผลให้รถยนต์กระบะพลิกมาชนรถตนเข้าอย่างจังจึงรีบแจ้งต่อหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และคนขับรถบรรทุกพ่วงอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการชนที่แท้จริง ก่อนดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป




 

กำลังโหลดความคิดเห็น