ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดลมพัดแรง และฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา โดยเฉพาะใน อ.เทพา เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายเอเชียหัก และโค่นล้ม 32 ต้น ทับรถเก๋งเสียหาย 2 คัน แต่โชคดีที่ผู้ขับขี่ปลอดภัย
วันนี้ (26 ก.ค.) ได้เกิดลมพัดแรง และฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เทพา ลมที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรงทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้า จ.สงขลา พื้นที่บ้านคลองประดู่ หมู่4 ต.ปากบาง อ.เทพา ช่วงระหว่าง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กับ อ.เทพา จ.สงขลา หัก และโค่นล้มขวางถนน จำนวน 32 ต้น เป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร
และมีรถเก๋งถูกเสาไฟฟ้าล้มทับได้รับความเสียหาย 2 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์สีเขียว หมายเลขทะเบียน กจ 7664 ยะลา และรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง หมายเลขทะเบียน กจ4929 ปัตตานี สภาพถูกเสาไฟฟ้าล้มทับกลางตัวรถ แต่ผู้ขับขี่ทั้ง 2 คันปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และบังเอิญที่รถทั้ง 2 คันมีหมวดอักษร กจ เหมือนกัน หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิเทพา ได้ทำการตัดกระแสไฟและเร่งเข้าเคลียร์พื้นที่ และซ่อมแซม ซึ่งอาจต้องใช้เวลาถึงพรุ่งนี้ทำให้ชาวบ้านในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอาจไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว
นายธนกร ล่องทอง อายุ 37 ปี เจ้าของรถเก๋งมิตซูบิชิ บอกว่า ช่วงเกิดเหตุขับรถมากับภรรยา คือ น.ส.เขมนัฎฐ์ พิมพ์สวัสดิ์ อายุ 26 ปี จาก จ.ยะลา ไปยัง อ.หาดใหญ่ แต่ได้เกิดลมพัดแรง และมีฝนขาวโพลนมองไม่เห็นทางจึงจอดรถ ปรากฏว่า เสาไฟฟ้าได้ล้มลงมาทับรถที่จอดอยู่พอดี รวมทั้งรถเก๋งอีกคันที่จอดอยู่ด้านหน้าซึ่งไม่ไกลกัน ก่อนที่เสาไฟฟ้าจะล้มตามกันเป็นโดมิโน และโชคดีที่ตนทั้งคู่ปลอดภัย แต่ก็ตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
