MGR Online - ก.ตร.มีมติเอกฉันท์! “ศานิตย์” ผบช.น.ตัวจริง เด้ง ผบช.ภ.9 เข้ากรุ โยก ผบก.ภ.จว.สมุทสาคร-สงขลา สลับนครนายก-สระบุรี เซ่นคำสั่งหัวหน้า คสช.ฐานเกี่ยวกับค้ามนุษย์
ก.ตร.มีมติเอกฉันท์ตั้ง"ศานิตย์ มหถาวร"นั่งผบช.น.ตัวจริง
โพสต์โดย MGR Online ผู้จัดการข่าวอาชญากรรม บน 27 กรกฎาคม 2016
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 8/2559 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เสนอให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่ด้านการบริหารงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม) รรท.ผบช.น. เป็น ผบช.น.ตัวจริง โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ขึ้น รรท.ผบช.น. โดย ผบ.ตร.ให้เหตุผลในที่ประชุมว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ ผ่านการประเมิน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สามารถดำเนินการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ พร้อมยืนยันการตั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ ไม่มีแรงบีบหรือแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง ส่วนจะมีการโยกย้ายตำแหน่งอื่นๆ พร้อม ผบช.น.ในวาระประจำปี 2559 ซึ่งจะมีการโยกย้ายในอีก 2 เดือนหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณา
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันมีการปรับย้ายนายตำรวจที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 33/2559 ลงวันที่ 24 มิ.ย. 2559 ให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และให้มีการตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และบ่อนการพนัน ซึ่งขณะนี้การสอบสวนแล้วเสร็จและมีการสั่งยุติเรื่องแล้ว จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการปรับย้ายตามคำสั่งหัวหน้า คสช.โดยไม่ให้ดำรงตำแหน่งเดิม ประกอบด้วย พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 เป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. แทนตำแหน่งของ พล.ต.ท.ศานิตย์ พล.ต.ต.สรไกร พูนเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เป็น ผบก.ภ.จว.นครนายก โดยสลับให้ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครนายก เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นอกจากนี้ให้โยก พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็น ผบก.ภ.จว.สระบุรี และสลับให้ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.ภ.จว.สระบุรี เป็น ผบก.ภจว.สงขลา ส่วนตำแหน่ง ผบช.ภ.9 ยังไม่มีการตั้งใครไปดำรงตำแหน่งโดยจะรอแต่งตั้งในวาระประจำปี 2559 ขณะนี้ให้ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รักษาราชการแทนไปก่อน
“ผลการสอบสวน พล.ต.ท.วีรพงษ์ พล.ต.ต.สรไกร พล.ต.ท.กฤษกร ไม่พบว่ามีความผิดจึงสั่งยุติเรื่อง ไม่ปรากฏการกระทำผิด แต่ ก.ตร.เห็นว่าไม่ควรให้อยู่ในตำแหน่งเดิม จึงปรับย้าย กรณี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ที่ให้เป็น ผบช.ประจำฯ ก็ไม่ใช่การลงโทษ เพราะทุกคนถูกปรับย้ายหมด ส่วนกรณี พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ซึ่งหัวหน้า คสช.มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งจากกรณีเกี่ยวเนื่องกับสถานบริการนาตารีนั้น การสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จ แต่หากเสร็จแล้วก็ต้องปรับย้ายจากตำแหน่งเช่นเดียวกับ ผบก.ภ.จว.สงขลา และผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร” รอง ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ก.ตร.เห็นชอบการปรับโครงสร้างการบริหารงานบุคคล ปรับลดตำแหน่งรองผบ.ตร.ถึงรอง ผบช. ซึ่งประธาน ก.ตร.อยากให้เกิดความชัดเจนในการกำหนดสายงานหลักของตำรวจ กำหนดตำแหน่ง ลดรอง ผบ.ตร.ให้มีเพียง 5 ตำแหน่ง ตรงตามสายงานหลักตามที่คณะกรรมการการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) กำหนดไว้ มีผู้ช่วย ผบ.ตร.สายงานละ 2 คน ช่วยดูแล ปรับตำแหน่งรองรับศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ ก่อการร้ายข้ามชาติ ค้ามนุษย์ ปรับโครงสร้างตำแหน่งให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งการปรับต้องใช้เวลาและต้องนำเสนอ ก.ต.ช.อีกครั้ง โดยให้มีผล 1 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ก.ตร.ได้เห็นชอบเงินเพิ่มพนักงานสอบสวน ผู้ปฏิบัติงานสอบสวนทุกระดับตำแหน่ง หลังจากกระทรวงการคลังอนุมัติแล้ว โดยจากนี้ พล.อ.ประวิตรจะลงนามประกาศกฎ ก.ตร.และเริ่มจ่ายเงินเพิ่มพิเศษแก่พนักงานสอบสวนทั้งหมดได้ โดยจ่ายย้อนหลังด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจาก ก.ตร.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้วนั้น จะมีผลย้อนหลังตั้งวันแต่งตั้งรักษาการ ผบช.น.แล้วจะมีการโปรดเกล้าฯอย่างเป็นทางการอีกครั้ง