คนร้ายขับกระบะ 3 คัน จอดยิงถล่มบ้านในเขตมีนบุรี กทม. กระสุนปืนทะลุฝาบ้าน 7-8 รู มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เผยก่อนเกิดเหตุเจ้าของบ้าน มีเรื่องวิวาทชกต่อยกับคนในร้านขายยางรถยนต์บ้านฝั่งตรงข้าม แต่พวกสู้ไม่ได้เลยเรียกเพื่อนรุมแล้วชักปืนข่มขู่ไว้
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ละอองบัว รอง สว.(สอบสวน) สน.ฉลองกรุง รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านเรือนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 8/1 ม.4 ถ.คุ้มเกล้า 14 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.วรากร ไชยวงศ์ สว.สส. ชุดสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และประสานเจ้าหน้าที่ทหารจากร้อย รส.ป.พัน.12 รอ. 15 นาย รุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พบรูกระสุนปืนทะลุฝาบ้านประมาณ 7-8 รู และพบปลอกกระสุนปืนจำนวนหนึ่งหล่นเกลื่อนถนนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อนายพศวีร์ รังรักษ์ อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าที่ช่องท้องน้อยข้างขวา 1 นัด กระสุนฝังในบาดเจ็บสาหัส ญาติช่วยกันนำส่ง รพ.นวมินทร์ 1 ขณะนี้รอการผ่าตัด
สอบสวน น.ส.ชนัญชิดา ม่วงเกตุมา อายุ 28 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. บิดาของตนได้มีปากเสียงกับชายคนหนึ่งที่อยู่ร้านขายยางรถยนต์ชื่อบริษัท คุ้มเกล้าล้อแม็ก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านหลังเกิดเหตุ กระทั่งได้มีการชกต่อยกัน แต่ชายคนดังกล่าวสู้ไม่ได้จึงเรียกเพื่อนที่อยู่ร้านยางจำนวน 3 คนมารุมทำร้ายพ่อตน และชายคนดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันไป พ่อจึงไปแจ้งความที่ สน.ฉลองกรุง ไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาทางญาติๆ ได้พากันเดินทางมาเยี่ยมพ่อของตนพร้อมกลุ่มวัยรุ่นอีกประมาณ 4 คน หลังจากนั้นจึงตั้งวงดื่มสุรากันบริเวณหน้าบ้าน กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.มีรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู สีส้ม จำนวน 2 คัน และรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ อีก 1 คัน มาจอดอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามถนน และตะโกนมาว่า “เมาหรือยัง” ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้ามาหลายนัด พวกตนพากันหมอบคลาน วิ่งหนีกันอลหม่าน ก่อนกลุ่มคนร้ายจะขับรถหลบหนีไป
พ.ต.ท.วรากรกล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดของ กทม.หลายจุด รวมถึงกล้องเอกชนของร้านสะดวกซื้อน่าจะจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เบื้องต้นวันพรุ่งนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมด และเข้าสอบสวนกลุ่มคนที่ร้านยางฝั่งตรงข้ามบ้านหลังเกิดเหตุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ต่อไป