MGR Online - กรรมการบริหาร บ.ในเครือแก้วพิทักษ์ออยล์ พร้อมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ แจ้งจับ “ทนายสงกานต์” และพวก ผิด.พ.ร.บ.คอมพ์ และหมิ่นประมาท ให้สัมภาษณ์พาดพิงผ่านรายการทีวีร่วมขบวนการแก๊ง “นางไก่”
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายโยธิน ยุพงษ์ฉาย กรรมการบริหารบริษัทในเครือแก้วพิทักษ์ออยล์ พร้อมด้วยนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พัฒนพงษ์ ศิริเจริญนำ รองสารวัตร (สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์, พระสมุห์ชวลิต กิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และ น.ส.สายใย เอี่ยมภูมิ อายุ 87 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.สายใย เพิ่มเติมในข้อหาแอบอ้างเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายโยธินกล่าวว่า จากเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสงกานต์พร้อมด้วยพระสมุห์ชวลิต และ น.ส.สายใย ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.ในคดีที่เกี่ยวข้องกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ อีกทั้งยังได้ออกรายการโทรทัศน์พาดพิงว่าตนมีส่วนรู้เห็นและร่วมขบวนการกับนางไก่ โดยกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีเหลือง ทะเบียน ศณ 6869 กรุงเทพมหานคร รถที่นายสงกานต์อ้างว่าเป็นรถนำขบวนให้นางไก่เพื่อเดินทางไปวัดยี่ป่า จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งยังได้นำภาพถ่ายรถยนต์คันดังกล่าวมาใช้ประกอบการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ทั้งที่จริงแล้วรถคันดังกล่าวเป็นรถส่วนตัวของตนเอง
นายโยธินกล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2552 ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถเบนซ์คันดังกล่าวเดินทางไปที่วัดยี่ป่าเพื่อไปทำบุญทอดผ้าป่า และได้พบกับ น.ส.สายใยที่หน้าวัด จากนั้น น.ส.สายใยจะขอติดรถเข้าวัดและขอถ่ายรูปตนกับรถเบนซ์ กระทั่งเอาภาพดังกล่าวมาใส่ร้ายตนว่าร่วมขบวนการกับนางไก่ นอกจากนี้ นายสงกานต์ยังอ้างอีกด้วยว่าทางวัดยี่ป่ามีการทอดกฐินเรียกเงินทำบุญ ทั้งที่ความเป็นจริงทางวัดดังกล่าวไม่เคยมีการทำบุญทอดกฐินตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
นายโยธินกล่าวด้วยว่า ช่วงที่รู้จักกัน น.ส.สายใย อ้างว่ารู้จักกับบุคคลสำคัญและพูดคุยเรื่องการดำเนินคดีต่อพระครูปลัดสุรสิทธิ์ สีลคุโน เจ้าอาวาสวัดยี่ป่า ในเรื่องฉ้อโกง โดยที่ น.ส.สายใยอ้างว่าถูกพระครูปลัดสุรสิทธิ์หลอกเอาเงินค่าขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปเป็นจำนวน 2.8 ล้านบาท แถมยังข่มขู่พระครูปลัดสุรสิทธิ์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องดังกล่าวทราบว่า น.ส.สายใยไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีของพระครูปลัดสุรสิทธิ์แต่อย่างใด ต่อมาภายหลังทราบว่า น.ส.สายใยได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพระครูปลัดฯ ในข้อหาฉ้อโกง ไว้ที่ สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะขาดการติดต่อกันไปหลายปี กระทั่งมาทราบเรื่องว่าตนถูกพาดพิงว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนางไก่ซึ่งทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พัฒนพงศ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป