MGR Online - กองปราบปรามรวบแก๊งผลิตปืนเถื่อน พร้อมยึดของกลางปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก สารภาพนำไปขายให้นักเรียนอาชีวะไว้เพื่อป้องกันตัว
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.กก.ปพ.บก.ป. แถลงผลกการจับกุม นายสุเทพ แก้วเกิด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ต.หนองระฆัง อ.สนม จ.สุรินทร์ ในข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง นายแสงจันทร์ สีลอด อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 3 ต.ศรีสำราญ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และนายนราพงษ์ พลอยสุวรรณ หรือโจ้ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 18 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 3 กระบอก ชิ้นส่วนปืน, ชนิดลูกโม่จำนวน 5 โม่, เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด, เครื่องกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 2 นัด และอุปกรณ์ในการประกอบอาวุธปืน, ยาไอซ์ 2 กรัม ตำรวจสามารถจับกุมนายสุเทพ นายแสงจันทร์ ได้ภายในซอยฉลองกรุง 37 ส่วนนายปายจับกุมได้ที่บริเวณริมทางรถไฟ ซ.ลาดกระบัง 27 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง และนายนราพงษ์จับกุมได้ที่โรงงานภายในซอยฉลองกรุง 31 ถ.ฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม.
พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่นักเรียนช่างกลนำมาใช้ในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทและป้องกันตัวจากคู่อริต่างสถาบัน จึงดำเนินการวางแผนล่อซื้ออาวุธปืนจาก นายเอ โดยนัดหมายส่งมอบที่บริเวณริมทางรถไฟซอยลาดกระบัง 27 ย่านลาดกระบัง ก่อนที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมและขยายผลจนติดตามจับกุมตัวนายแสงจันทร์ และนายสุเทพได้ที่บริเวณร้านขายของชำภายในซอยฉลองกรุง 37
จาการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยนายสุเทพหนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่าตนจะทำหน้าที่ในการดัดแปลงออกแบบอาวุธปืนต่างๆ ส่วนนายนราพงษ์จะเป็นผู้ผลิตเข็มแทงชนวนและลำกล้องปืน เมื่อประกอบเสร็จก็จะนำออกไปทดลองยิงที่บริเวณในป่าข้างถนน หากมีผู้มาติดต่อซื้ออาวุธปืนดังกล่าวกับนายแสงจันทร์ หรือนายเอ ตนก็จะขายให้ในราคากระบอกละ 3,500 บาท จากนั้นนายแสงจันทร์และนายเอก็จะนำอาวุธปืนที่มีการสั่งจองไว้ไปขายให้ลูกค้าในราคากระบอกละ 5,000 บาท โดยขายมาแล้วประมาณ 5-6 กระบอก โดยส่วนมากลูกค้าจะเป็นรุ่นน้องในสถาบันอาชีวะที่เคยเรียนมา โดยอ้างว่าซื้อไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขตกล่าวต่อว่า หากผู้ใดที่คิดจากกระทำความผิดด้วยการประดิษฐ์อาวุธปืนหรือทำการครอบครองอาวุธที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น อยากให้หยุดการกระทำดังกล่าว พร้อมหากผู้ใดมีเบาะแสผู้กระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลให้กับทางตำรวจกองปราบปรามได้ทันที โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายเอ และนายแสงจันทร์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง และนายสุเทพ นายนราพงษ์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป