xs
xsm
sm
md
lg

“ป้อนข้าว” เข้าให้ปากคำกองปราบฯ ด้านภรรยา “บรรยิน” แย้งวันจำลองเหตการณ์อุบัติเหตุไม่เสมือนจริง-ขอความเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “ป้อนข้าว” อดีตโบรกเกอร์สาวเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบฯ หลังถูกออกหมายเรียกในคดีการเสียชีวิต “เสี่ยชูวงษ์” ด้านภรรยา “บรรยิน” เผยวันไปตีกอล์ฟไม่ได้อยู่กันแค่สองคน มีเพื่อนร่วมก๊วนอีก พอมีเรื่องหุ้นกับเงินกลับมีเรื่องมากมาย รับเสียใจที่ครอบครัวต้องเดือดร้อนกับการลงหุ้นกับเสี่ยชูวงษ์ ยันมีหลักฐานที่เคยฟ้องร้องที่ศาล จ.สมุทรปราการมายื่น ส่วนวันจำลองเหตุการณ์ไม่เหมือนกับวันเกิดเหตุ

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.อุรชา วชิรกุณฑล หรือป้อนข้าว อายุ 26 ปี อดีตโบรกเกอร์สาว หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เสี่ยรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน พร้อมทนายความ และนางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ภายหลังทางตำรวจ บก.ป.พบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถโรงแรมทอซคาน่า สวีท วัลเลย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ น.ส.อุรชานั้น ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง ทางผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่เฝ้ารอทำข่าวได้พยายามขอสัมภาษณ์ แต่ทาง น.ส.อุรชาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปพบพนักงานสอบสวนในทันที

ขณะที่นางวราภรณ์กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมามีแต่สื่อมวลชนกับทางญาติผู้เสียชีวิตเป็นฝ่ายพูดอยู่ข้างเดียวมาปีกว่าๆ ตนจึงอยากขอพูดบ้างในข้อเท็จจริงที่ทุกท่านอาจยังไม่ทราบ ตั้งแต่ประเด็นแรกที่บอกว่าเขาสองคนไม่รู้จักกัน ฝากย้อนไปดูตั้งแต่ต้น พ.ต.ท.บรรยินพูดมาตลอดว่ารู้จักทั้งสองคนนี้ รู้จักกับ น.ส.อุรชา พร้อมๆ กับคุณชูวงษ์ แล้วเรื่องที่ไปไหนมาไหนกันสองคน จะไปต่างประเทศหรือไปเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ตนมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า พ.ต.ท.บรรยิน กับ น.ส.อุรชา ไม่ได้ไปกันสองคน ตนก็ทราบดี ทุกวันนี้ที่เขาต้องถูกออกจากงานไปทำธุรกิจร่วมกับลูกสาว ลูกชายตน ซึ่งวันนี้ก็ให้กำลังใจ ต้องทำธุรกิจร่วมกัน เด็กสองคนนี้ก็เหมือนลูกตน เหมือนว่ามีลูกเพิ่มมาอีก

“อีกเรื่องที่ดิฉันอยากจะพูด ที่ญาติเขาบอกว่าเราไม่เคยขอโทษ เราร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรากล่าวคำขอโทษหลายครั้ง ไปร่วมงานศพคุณชูวงษ์ทุกวัน ลูกๆ ดิฉันก็ไป ดูแลเพื่อนฝูงที่ไปงาน ดูแลเรื่องหนังสือที่ระลึก ของที่ระลึกในงานศพ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเขาสองคนรักกันมาก ในระหว่างงาน ฝ่ายเขาก็บอกว่าเข้าใจ รู้ว่าสูญเสียเพื่อนที่รัก แต่พอมีเรื่องหุ้น เรื่องเงินขึ้นมา กลับมามโนเรื่องอะไรต่างๆ มากมาย ดิฉันไม่เข้าใจ มันตาลปัตรไปได้ยังไง แล้วทุกวันนี้ที่ดิฉันเสียใจอย่างยิ่งคือการที่ครอบครัวและญาติต้องเดือดร้อนกับที่มาลงหุ้นกับคุณชูวงษ์” นางวราภรณ์กล่าว

ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวอีกว่า ที่ญาติเขาบอกว่ารู้ทุกเรื่องของนายชูวงษ์ รู้หรือไม่ว่าเป้าหมายนายชูวงษ์อยากจะทำอะไรในอนาคต ก็เป็นเรื่องที่พูดกับญาติเขาไม่ได้ เขาทราบหรือไม่ว่าธุรกิจเราไม่ใช่แค่ที่นครสวรรค์ พิษณุโลก แล้วยังเรื่องอื่นๆ อีกซึ่งปรากฏในสำนวน ตนก็มีหลักฐานพร้อมที่จะให้ดูทุกอย่าง ยังต้องฟ้องร้องกันที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตนก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นเลย แล้วอีกเรื่องที่ตนอยากจะพูดวันที่จำลองเหตุการณ์ สถานการณ์ที่มันไม่เหมือนกับความจริง ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน แล้ววันนั้นฝนตก กับฝนไม่ตก ที่สำคัญวันนั้นที่จำลองเหตุการณ์น่าจะใช้รถที่ติดแก๊สเช่นเดียวกับรถที่เกิดอุบัติเหตุ น่าจะใช้รถติดแก๊สจำลองเหตุการณ์

นางวราภรณ์กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ตนขออย่างเดียว ขอให้ทำทุกเรื่องให้ยุติธรรมเท่าเทียมกัน อย่าลำเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะพวกเราพร้อมที่จะสู้ ลูกๆ เราทั้งหมดก็พร้อมที่จะสู้ไปด้วยกันเพื่อพิสูจน์ความจริงว่ามันคืออะไร ตนอยากพูดว่า พ.ต.ท.บรรยินเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ในวันเกิดเหตุตอนเขากลับมาตนก็ยังเสียใจไปด้วย รู้ว่าเขาเสียใจขนาดไหน เรารู้เลยทันทีว่าเขารักกันจริง และเป้าหมายในอนาคตข้างหน้าของนายชูวงษ์กับ พ.ต.ท.บรรยินก็เป็นความฝันที่เขาจะร่วมกันทำ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น พ.ต.ท.บรรยินก็เคยพูดไปแล้ว คิดว่าสื่อมวลชนก็น่าจะทราบดี

จากนั้นนางวราภรณ์ได้หยิบภาพในช่วงวันที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน โดยระบุว่าในภาพจะเห็นชัดเจนว่า พ.ต.ท.บรรยินใส่ชุดตีกอล์ฟ และจะเห็นว่าเพื่อนๆ เขาก็อยู่ข้างๆ เป็นภาพที่ปรากฏชัดเจนแล้วก็มีเพื่อนๆ อีกหลายคน ไม่ใช่อยู่กันสองคน แล้วเด็กสองคน ลูกของตนก็ต้องลำบากกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้เราต้องช่วยเหลือดูแลกันมากขึ้น






กำลังโหลดความคิดเห็น