กัดติด “คุณหญิง-คุณนาย”กำมะลอ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่เป็นว่าเล่นทีมข่าวอาชญากรรม MGR ออนไลน์ “จับไต๋” 1 ปีบินไปปักกิ่ง -พม่า-ญี่ปุ่น ไม่มีเสี่ยงโชคดงพนันเกาะมาเก๊า ฮ่องกง แฉสังคมไทยไม่ยอมอยู่เฉยอีกต่อไป สื่อทุกแขนงนักข่าวรุ่นเดอะ ยันรุ่นใหม่ลุยถั่วให้เห็นดำเห็นแดงกันไปข้าง ล่าสุดมาแปลก โยนร้อยเวรฯพิมพ์เลขผิดแค่ทองคำหนัก 10 บาท 4 แท่งค่า 8 แสนไม่ใช่ 8 ล้าน
...เปิดปูม -ลากไส้ “หมอหยอง”จอมลวงโลกพัวพัน “กิมเอ็ง - คุณนายไก่”คดีทุจริตเครื่องราชฯ...พาดหัวข่าวบนจอ “ผู้จัดการออนไลน์”เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2558 สร้างความฮือฮาแก่สังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนักข่าวอาชญากรรมหน้าใหม่ -รุ่นกลาง -จนไปถึงรุ่นเก๋าเนื่องจากพฤติการณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเฉพาะของอดีตนักข่าวอาชญากรรม “รุ่นเดอะ” ที่ใกล้ลาเวทีเต็มแก่ หากแต่ว่าเมื่อพูดถึง “หมองหยอง -กิมเอ็ง-คุณนายไก่” ขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นอันต้องล้อมวงคุยกันจนน้ำลายแตกฟองเพราะตัวละครที่เข้าไปเกี่ยวข้องล้วนคนคุ้นเคย รู้จักกันทั้งสิ้น ตำรวจระดับสารวัตรใหญ่ ผู้กำกับ ผู้บังคับการ หรือใหญ่โตขนาดรองผู้บัญชาการ
เป็นเรื่องจริง 90% ที่เหลืออาจจะเสริมเติมแต่งเพื่อความสนุกสนานประสาวงล้อมนินทานายตำรวจใหญ่ เรียกว่านักข่าวสายอาชญากรรม รวมทั้งรีไรท์เตอร์ หรือคนเขียนข่าว หัวหน้าข่าวก็รู้กันดี มีบางช่วงบางตอนทั้ง “หมอหยอง -กิมเอ็ง -คุณหญิง”ไก่ก็แอบใช้นักข่าวเป็นเครื่องกระจายเสียง หลายคนพูดไม่ออกเพราะเคยถูกแก๊งแสบแหกตาเอาไว้ตัดสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ ไปได้เพราะด่วนลาโลกไปก่อนแล้ว ส่วนคุณนายไก่ หรือไก่ วันทนีย์ ที่เคยคุ้ยแคะแกะเกาว่ามีผลงานโดดเด่นจนแก๊ง 18 มงกุฎต้องยกให้เป็น “เจ้ใหญ่”เพราะคุณเธอเล่นแต่ของใหญ่ “เหยื่อ”ชิ้นโตๆ มีการโหมโรงออกสื่อในฐานะแม่หม้ายพันล้าน หรือเศรษฐินีใจบุญ
“มหากาพย์” ตุ๋นเปื่อยไล่เรียงบรรดา “เหยื่อ” ที่หลงเข้ามาเพราะคิดว่าได้ทั้งตัวได้ทั้งเงินประเภท “หนูตกถังข้าวสาร”แต่หารู้ไม่ว่าที่เห็นคือถังแกลบ หรือถังอุจจาระตกลงไปเมื่อไหร่ซวยเมื่อนั้นเช่น “ผู้กอง”หนุ่มน้อยหน้ามนคนหนึ่งครอบครัวมีกิจการโรงแรม อยู่ย่านเยาวราชมิรู้ว่าคุณนายไก่ วันทนีย์ วางฟอร์มท่าไหนเกือบได้เป็น “อาซ้อ”ประจำตระกูลไปแล้ว ครั้งแรกที่นักข่าวใหญ่ไปพบเห็นหมวยถักผมเปียยืนหันหลังให้ท่าทางน่าสนใจแต่พอหันหน้ามา ...อ้าว..นี่อีคุณนายไก่ นี่หว่า....ตอนนั้นใครๆ ก็รู้จักเธอ ก็เพราะความที่เป็นคนดังที่ขึ้น-ลงโรงพักเป็นประจำ...ถามคุณนายไก่ มาทำอะไรเยาวราช ได้แต่ยิ้มก้มหน้าก้มตาปัดกวาดหน้าร้าน ด้วยความสงสัยนักข่าวใหญ่ แว่บถามอาซิ้มคนนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สายตามองคุณนายไก่ ด้วยความเอ็นดูตลอดเวลา...”ลื้อไม่รู้เหรอ อีเป็งเสกถี ลูกอั้วโชกลีล่ายตกถังเข้าสาน”
นักข่าวใหญ่กลับมาโรงพิมพ์เก็บเอาความบังเอิญมาเมาท์กับพรรคพวก แต่จากวันนั้นก็ไม่เคยได้ข่าวคราวคุณนายไก่ อีกกระทั่งมาปรากฏเป็นเรื่องร้องเรียนเอาผิดกับตำรวจอีกหลายคนฐาน “ฟันแล้วทิ้ง” ในจำนวนนั้นมี ผกก.คนดังโรงพักอยู่แถวๆ ปลายถนนสุขุมวิท ต่อมาก็เป็น ผู้กอง เจ้าของกิจการทาวน์เฮาส์ย่านถนนสุโขทัย ตามติดด้วยอดีตนักการเมืองคนดังของภาคอีสานซึ่งมีพยานสำคัญชื่อ “เฮียเพ้ง” เห็นตั้งแต่วันที่คุณนายไก่ วันทนีย์ ขับรถเบนซ์ 500 คันยาวมาเทียบหน้าสำนักงานบ้านจัดสรร นัยว่ากำลังหาซื้อเรือนหอเพื่อประกาศงานวิวาห์ระดับประเทศ ส.ส.หนุ่มผู้มีอนาคตคงฝันได้เมียรุ่นพี่เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ถึงขนาดมีข่าวว่าฝ่ายหญิงจะทุ่มเงินพันล้านเอาไปให้ตั้งพรรคการเมือง...เดินดูบ้านหลังใหญ่หลายรอบ...ไม่มีสนามเทนนิส...ไม่มีสระว่ายน้ำ ถ้าว่าที่สามีได้เป็นรัฐมนตรี คงไม่สมเกียรติคุณนายไก่ จึงขอกลับไปคิดส่วน “เฮียเพ้ง”เริ่มเห็นความผิดสังเกตแอบสะกิดให้อดีตนักการเมืองอนาคตไกลเจ้าของอักษรย่อ ส. มีสติสตังค์กลับคืน... “รถเบนซ์คันหรูเฮียว่ามันเช่ามา รถห่านอะไรขัดถูกันข้างในมันวับ ไม่มีหมอน ไม่มีอะไรประดับ”ที่สุดแล้วนิยายรักระหว่างอดีตนักการเมืองดังแห่งภาคอีสาน กับคุณนายกำมะลอ จบลงที่ต่างคนต่างๆ ไปโดยฝ่ายชายต้องจ่ายค่าอิสรภาพให้ 7 หมื่นบาท
เส้นทางโลดแล่นของคุณนายไก่ วันทนีย์ยังไม่จบง่ายๆทั้งข่าวแจกเงินราวเศษกระดาษ และเหตุการณ์ร่วมสมัยหน่อยก็คือ “ปลาตัวใหญ่” มีนายตำรวจระดับ “นายพล” ประจำหน่วยงานที่มีอำนาจการสอบสวนทั่วประเทศ “ผู้การ ก.”ติดบ่วงจนดิ้นไม่หลุดเพราะเที่ยวนี้คุณนายไก่ วันทนีย์ ใช้วิธีแอบอัดเทป อัดซีดีในทุกการกระทำอย่างละเอียด เมื่อถึงจุดแตกหัก “ผู้การ ก.”คนหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ผิวดำจำต้องควักเงินสดๆ จำนวนหลายล้านบาทเพื่อไม่ให้ตกเป็นข่าวอื้อฉาว
จบจาก “ผู้การ ก.”ข่าวคราวของคุณนายไก่ วันทนีย์ หายไปจนมาปรากฏอีกครั้งเมื่อเกิดชะตากรรมกับ “หมอหยอง”แต่ก็เป็นการเอาเรื่องเก่ามาขยายกันใหม่ นี่คือประกาศนียบัตรของคุณนายไก่ วันทนีย์ ตัวอย่างที่เล่าลือในวงนักข่าวเก่า...แต่ที่ยกให้เป็นการต้มตุ๋นระดับประเทศ และสร้างเวรกรรมมากที่สุดก็ต้องให้คดีทุจริตเครื่องราชฯ ด้วยความที่เจ้าคุณอุดม หรือพระราชปัญญาโกศล รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นพระเถระที่เข้าถึงง่าย คุณนายไก่ วันทนีย์ และคุณนายกิมเอ็ง จึงเข้าไปจัดการเซ็งลี้สร้างความเสียหายให้กับวงการสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ถึงขั้นถูกสึก ข้าราชการบางคนที่เกี่ยวข้องต้องฆ่าตัวตายด้วยความอับอาย
จากอดีตอันยาวนานกว่า 20 ปี เกิดมีชื่อคุณนายไก่ วันทนีย์ เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้เสียหายคดีลักทรัพย์สุดอื้อฉาวอีกครั้งหนึ่งของสังคมไทยนั่นคือกระแสข่าวร้อนกรณี น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย อายุ 19 ปี เด็กเรียนดีจนได้สิทธ์เข้าไปศึกษาต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ สกลนคร ถูกเจ้านายไฮโซสาวใหญ่อายุอานามใก้ลๆ 60 หรือคุณนายไก่ คุณหญิงไก่ สุดจะว่ากันไปกล่าวหาว่าขโมยทรัพย์สินมูลค่า 10 ล้านประกอบด้วยทองหนัก 10 บาท 40 แท่งมูลค่า 8 ล้านบาทและเครื่องประดับต่างๆพร้อมกระเป๋าหรูจากคอนโดฯที่พัก
รายละเอียดต่างๆ เชื่อกันว่าบรรดาคอข่าว หรือประชาชนคนไทยส่วนใหญ่คงได้ติดตามทราบกันไปบ้างแล้วแต่ประเด็นที่ยังคาใจก็คือคุณนายไฮโซ ผู้เสียหายนี้มีฐานะร่ำรวยมาจากกิจการอะไร และที่เธอกล่าวอ้างว่าได้มาจากการเสี่ยงโชคที่เกาะมาเก๊า ฮ่องกง นั้นจริงหรือไม่ ในฐานะผู้เสียหายแต่กลับต้องเป็นคนที่ถูกสังคมตรวจสอบอย่างหนัก ไม่ว่านักสืบพันธุ์ดุจากโลกโซเชียลฯ นักสืบพันทิป ผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม ทั้งออนไลน์ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เรียกว่า “กัดติด”และเร่งตรวจสอบกันอย่างเต็มที่จนทำท่าว่าคดีอาจพลิกผันจากผู้ต้องหามีสิทธิ์สลับเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายก็อาจตกเป็นจำเลยในคดีแจ้งความเท็จหากเจ้าพนักงานสามารถพิสูจน์ความจริงให้กระจ่างได้
ระหว่างติดตามเดิมพันอันมีคุก-ตะรางรออยู่ข้างหน้าทั้ง 2 ฝ่ายนั้น คุณนาย หรือคุณหญิงไก่ ซึ่งใช้ชื่อนางแดง เป็นนามสมมุติตัดสินใจฝ่ากระแสที่กำลังโถมเข้าหาด้วยการเปิดแถลงข่าวที่โรงแรมสยามพาราไดซ์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยให้นายอัครชัย กุลมาตย์ ทนายความเป็นผู้นำแจกแจงรายละเอียดต่างๆ แต่สถานการณ์กลับดูเหมือนว่ายิ่งสร้างความเคลือบแคลงหนักยิ่งขึ้นเช่นเหตุไรนางแดง ในฐานะผู้เสียหายจึงคลุมโม่งปิดหน้าปิดตา อีกทั้งปิดชื่อเสียงเรียงนาม นอกจากนั้นยังเริ่มลด สเปกของความเสียหาย จากทองคำหนัก 10 บาทจำนวน 40 แท่งๆละ 200,000 บาทและทรัพย์สินอื่นๆรวมมูลค่า 10 ล้านบาทกลายเป็นแค่หลักล้านไม่ใช่สิบล้าน กลบพิรุธร่ำรวยผิดปกติกลับลำดื้อๆ ว่าร้อยเวรฯเจ้าของคดีเขียนตัวเลขผิด จากทองหนัก 10 บาท 40 แท่งเป็น 4 แท่งแต่มูลค่าทรัพย์ที่มีผลต่อการประกันหรือดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เกิดความเสียหายในเบื้องต้นแล้วนั้น ทั้งตำรวจเจ้าของคดี และคุณหญิงไก่ จะร่วมกันรับผิดชอบอย่างไร
อีกทั้งพฤติกรรมแอบอ้างเป็น “คุณหญิง”บางช่วงบางตอนแบบ “ตัวต่อตัว”ต้องหมอบคลานเข้าพบตามคำยืนยันของน้องก้อย ถือเป็นเรื่องน่าจับตามองเพราะแก๊ง 3 พี่น้อง “หยอง -ไก่-กิมเอ็ง”เคยมีประวัติถูกกล่าวขานแอบอ้างเบื้องสูงกันมาก่อน อย่างไรก็ตามนางแดง ยืนยันว่าจะดำเนินทางกฏหมายอย่างถึงที่สุดทั้งทางอาญาและทางแพ่งในหลากหลายประเด็นที่ทุกฝ่ายกำลังตรวจสอบ โดยเฉพาะจุดที่ค้างคาใจได้แก่คำอ้างของนางแดง หรือคุณหญิงไก่ ยืนยันถึงฐานะความร่ำรวยของตนว่ามาจากการเสี่ยงโชคที่เกาะฮ่องกง ทีมข่าวอาชญากรรม MGR ออนไลน์ได้แหล่งข่าวเชื่อถือให้ข้อมูลน่าสนใจมาว่าคุณนายไฮโซ ผู้นี้ได้เปลี่ยนชื่อ-สกุลตัวเองหลายครั้งโดยล่าสุดใช้ชื่อ นางมณตา หยกรัตนกาญ ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศตามอ้างนั้นพบว่าในปี 2558 ที่ผ่านมามีการเดินทางไปต่างประเทศ 4 ครั้งคือกรุงปักกิ่ง - กทม. กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา และกรุงเทพฯ - เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2558 กลับเมืองไทยวันที่ 27 เดือนเดียวกันแต่ไม่มีการเดินทางไปเสี่ยงโชคหรือติดต่อธุรกิจใดๆ ที่เกาะฮ่องกง ตามที่นางไก่ ชอบอ้างแต่อย่างใด