MGR Online - “อัยการ”แถลงยังไม่สรุปผล ปมเด้ง 3 อัยการนาทวี-สมุทรสาคร ยัน 3 อัยการพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ ตั้งกรรมการสอบ 30 วัน ยันยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ศอตช.สาเหตุการย้าย
วันนี้(28 มิ.ย.)เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 33/2559 ลงวันที่ 24 มิ.ย.2559 ให้พนักงานอัยการ 3 รายไปปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ว่า กรณีดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้รับรายงานข้อเท็จจริง ที่เป็นมูลเหตุให้พนักงานอัยการทั้งสามถูกย้าย จาก ศอตช. จึงไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ หากได้รับข้อเท็จจริงจาก ศอตช.แล้ว ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดจะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จ ภายใน 30 วัน ซึ่งผลตรวจสอบเป็นอย่างไร ก็จะดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. หากพบว่าอัยการทั้งสาม ไม่ได้กระทบผิดก็ต้องเยียวยาให้ทั้งสามกลับตำแหน่งเดิม แต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดเดิม
“ กรณีที่มีข่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว พบว่าอัยการทั้งสามไม่มีความผิดใดๆ และ อัยการสูงสุดได้ชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้รับแจ้งจาก ศอตช. ถึงมูลเหตุที่ให้อัยการทั้งสามถูกย้ายออก จึงยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ” นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว
นายประยุทธ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งย้าย ศอตช.ไม่ได้สอบถามหรือหารือมายังอัยการสูงสุด แต่เมื่อหัวหน้า คสช.มีคำสั่งออกมา พนักงานอัยการทั้ง 3 คนก็น้อมรับ เพราะเป็นคำสั่งชอบด้วยกฎหมายซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ภายใต้รัฎฐาธิปัตย์ จึงต้องปฏิบัติตาม โดยพนักงานอัยการทั้งสามมารายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุดแล้วและพร้อมที่จะเข้ารับการตรวจสอบเพราะยืนยันปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ ส่วนมูลเหตุที่มีกระแสข่าวว่าเป็นเรื่องคดีบุกจับบ่อนพนัน และคดีค้ามนุษย์นั้น เป็นความเข้าใจของอัยการที่ถูกคำสั่งย้าย ซึ่งทั้งสามคนก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงนี้จะตรงกับที่ ศอตช.มีข้อมูลหรือไม่
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า จากที่เคยร่วมงานกับนายวาทิต สุวรรณยิ่ง อัยการจังหวัดนาทวี ก็มีประวัติที่น่าชื่นชม ส่วนรองอัยการจังหวัดนาทวี และสมุทรสาครก็ได้รับการการันตี จากผู้บังคับบัญชาว่าไม่มีประวัติที่ด่างพร้อย แต่ความรู้จักนั้น ก็ไม่สามารถละเลยข้อเท็จจริงที่จะต้องตรวจสอบได้ อย่างไรก็ดีวันนี้อัยการทั้งสามไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย ส่วนที่จะเรียกสอบผู้ที่ให้ข้อมูลแก่ ศอตช.หรือไม่นั้นตนไม่สามารถก้าวล่วงอำนาจของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อัยการสูงสุดจะตั้งขึ้นได้
ทั้งนี้ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังกล่าวปฏิเสธด้วยว่า อัยการทั่วประเทศไม่ได้มีการรวมกลุ่มเคลื่อนไหวเป็นคลื่นใต้น้ำต่อต้านคำสั่ง คสช. เพราะอัยการยังมีวินัย ยึดระเบียบข้อปฏิบัติทำงานให้กับประชาชนด้วยความเที่ยงธรรม แต่อาจจะมีบางคนที่แสดงความเห็นตามความรู้สึกออกมาบ้าง
เมื่อถามว่า หากหากผลการตรวจสอบพบว่าพนักงานอัยการทั้งสามไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ การเยียวยานอกจากการคืนตำแหน่งแล้วจะฟ้องกลับผู้ให้ข้อมูลแก่ ศอตช.ได้หรือไม่ รองโฆษกฯ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าคำสั่งย้าย จะมีผลในการทำงานต่อความเป็นอิสระของอัยการใช้ดุลพินิจสั่งคดี โดยเฉพาะคดีค้ามนุษย์ที่มีนายทหารเกี่ยวข้องหรือไม่
รองโฆษกฯ กล่าวยืนยันว่า ภาพรวมอัยการยังคงทำงานได้ตามปกติ ซึ่งคดีค้ามนุษย์ที่อัยการทั้งสามทำเป็นคณะทำงาน ก็ได้มีการฟ้องคดีต่อศาลไปแล้ว ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นกับอัยการทั้งสาม ต้องรอการตรวจสอบก่อน
