MGR Online - “ศานิตย์” แถลงจับหนุ่มลำปางลัก จยย.ส่งขายประเทศพม่า รายได้เดือนละ 150,000-200,000 บาท รับทำมากว่า 50 คัน เน้นยี่ห้อฮอนด้ารุ่น “เวฟ-พีซีเอ็กซ์-สกูปปี้ไอ” ขายได้ราคา เผยจดปฏิทินสถานไว้กันก่อเหตุซ้ำที่เดิม จ่อขยายผลจับคู่หูหลังไหวตัวหนีทัน
วันนี้ (10.30 น.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ณัฐจักร จันทร์ลา รองผกก สส.บกน.1 พ.ต.ต. ทิพากร แก้วเปล่ง สว.กก.สส.บก.น.1 ร.ต.ท.นิพัฒน์พงศ์ พระสุรัตน์ รอง สว.สส.บก.น.1 แถลงผลการจับกุม นายนรินทร์ หรือเก๋ พรรณแสง อายุ 38 ปี ชาว จ.ลำปาง พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 4 กน 3925 กทม. จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กจ 4273 กทม. แม่เหล็กเปิดลิ้นกุญแจ 6 อัน เหล็กแหลมใช้สำหรับแทงรูกุญแจ 8 อัน ตัวทีสำหรับสวมเหล็กแหลมไว้บิดเพื่อเปิดสวิตช์ 2 ตัว คีมตัดเหล็ก 1 อัน กุญแจรถยี่ห้อฮอนด้า 9 ดอก ชุดเครื่องมือสำหรับขันนอต 1 ชุด หมวกกันน็อกยี่ห้อ space crown สีดำ 1 ใบ หมวกกันน็อกยี่ห้อ Nippon สีขาว 1 ใบ ถุงมือยี่ห้อ biker สีดำ-เทา 1 คู่ เสื้อคลุมแขนยาว สีกรมท่า 1 คู่ จับกุมได้ที่บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 50 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.30 น.
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีเหตุคนร้าย 2 คน แต่งกายคล้ายเมสเซนเจอร์ไปลักทรัพย์จักรยานยนต์ตามลานจอดในพื้นที่ บก.น.1 โดยเฉพาะพื้นที่ สน.บางโพ, สน.พญาไท, สน.สามเสน และเขตอื่นๆ ต่อเนื่องหลายครั้ง โดยเลือกเวลาก่อเหตุช่วงกลางวัน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุหลายคดีพบตำหนิรูปพรรณเป็นคนร้ายคนเดียวกันจึงออกสืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งชุดจับกุมได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.30 น.สามารถจับกุมนายนรินทร์ไว้ได้ ส่วนนายอนุสรณ์ หรือตะวัน ย้อยดี สามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายนรินทร์ไปตรวจค้นบ้านพักพบของกลางจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรม 1 คัน ซึ่งเป็นของนายเอกรัฐ โบราณมูล แจ้งหายไว้ท้องที่ สน.สุทธิสาร อุปกรณ์เครื่องมือสำหรับโจรกรรมรถจำนวนหนึ่ง และปฏิทินบันทึกสถานที่ลักจักรยานยนต์ จำนวน 1 ฉบับ ระบุตั้งแต่เดือน ม.ค. 2559
สอบสวนนายนรินทร์ให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับนายอนุสรณ์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ขณะติดคุกเมื่อปี 2552 ในข้อหารับของโจร เมื่อออกมาจึงได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์จักรยานยนต์ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลมาตั้งแต่ปี 2554 โดยขโมยวันละ 2 คัน หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 50 คัน รถที่นิยมขโมยคือ เอ็มเอสเอ็กซ์, พีซีเอ็กซ์, ฮอนด้าเวฟ และสกูปปี้ไอ เนื่องจากขายได้ราคาดี ทุกครั้งเวลาก่อเหตุจะสวมเสื้อคลุมเมสเซนเจอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว เมื่อเห็นรถเป้าหมาย นายนรินทร์จะลงไปใช้กุญแจแม่เหล็กเปิดฝากุญแจรถ จากนั้นนายอนุสรณ์จะใช้เหล็กตัวทีแทงเข้าไปในรูกุญแจสตาร์ท ใช้เวลาขโมยรถแต่ละคันประมาณ 3 นาที โดยทุกครั้งที่โจรกรรมรถเสร็จจะนำไปไปพักไว้ที่บ้านเช่าภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 50 ทุกครั้งที่ไปขโมยรถได้จดสถานที่ลงในปฏิทินเพื่อไม่ให้ซ้ำกัน และจะหยุดในวันเสาร์อาทิตย์ และวันพระ
จากนั้นนายนรินทร์จะนำรถไปส่งให้กับชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล ที่บริเวณห้างเทสโก้โลตัสนครชัยศรี จ.นครปฐม ในราคาคันละ 8,000 บาท เพื่อส่งต่อไปให้นายทุนที่อยู่ในประเทศพม่า ซึ่งจะได้รับส่วนแบ่งคันละ 3,000-4,000 บาท โดยมีรายได้จากการขโมยรถเดือนละประมาณ 150,000-200,000 บาท จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อปี 2551 นายนรินทร์และนายอนุสรณ์เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์จักรยานยนต์ ในท้องที่ สน.ลุมพินี, สน.บางรัก และ สน.บางโพงพาง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร นำตัวส่ง สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป