MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวจับชาวจีนขโมยเงินสดผู้โดยสารบนเครื่องบินเอมิเรตส์แอร์ ได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมของกลางเงินสกุลโครนา สวีเดน ฉบับละ 500 จำนวน 220 ใบ มูลค่ากว่า 460,000 บาท หลังถูกจับเสนอเงิน 5 หมื่นติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดนข้อหาเพิ่ม
วานนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จิตนกานนท์ รอง ผบก.ทท.พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา ผกก.6 บก.ทท. นายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผอ.ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงจับกุมผู้ต้องหา นายเฉิง วันจุน สัญชาติจีน ภูมิลำเนามณฑลเหอหนัน พร้อมของกลางธนบัตรสกุลโครนาสวีเดน ฉบับละ 500 โครนา จำนวน 220 ใบ คิดเป็นเงินไทยกว่า 460,000 บาท ณ กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สนามบินสุวรรณภูมิ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สายการบินเอมิเรตส์แอร์ เที่ยวบินที่ EK 384 เส้นทางดูไบ-ต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ-ปลายทางฮ่องกง ก่อนที่เครื่องจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 1 ชั่วโมง ว่านางสุนัน วิทแธม สัญชาติไทย ได้เข้าแจ้งความว่าเงินธนบัตรสกุลโครนา ประเทศสวีเดน ฉบับละ 500 โครนา จำนวน 220 ใบ มูลค่ากว่า 460,000 บาท ที่เก็บไว้ในกระเป๋าบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะหายไป โดยผู้เสียหายได้สงสัยนายเฉิงวันจุน ชาวจีน ผู้โดยสารที่นั่งเลขที่ 61E ซึ่งเดินมาเปิดกระเป๋าบนที่เก็บเหนือศีรษะก่อนที่เงินจะหายไป เมื่อตรวจสอบบริเวณใต้ที่นั่งบนเครื่องบินของผู้ต้องสงสัยพบธนบัตรชนิดเดียวกันและจำนวนเท่ากับทรัพย์สินของผู้เสียหายที่สูญหายไป โดยนางสุนันได้ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตนจริง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเดินทางมาจับกุมบริเวณประตูทางออก Gate E4 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจท่องเที่ยวทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหา พบว่า ทุกครั้งที่นายเฉิงวันจุน เดินทางเข้าประเทศไทยจะเดินทางกลับในทันทีหรือภายในวันถัดไป และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงเชื่อว่าเป็นการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าลักทรัพย์ผู้อื่นในยวดยานสาธารณะ (อากาศยาน) หรือรับของโจร โดยระหว่างการจับกุม นายเฉิงวันจุนได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เสนอเงินกว่า 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวให้พ้นจากการถูกดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า ให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
