MGR Online - รมว.ยุติธรรมระบุยังไม่ทราบเรื่องบุกจับ “ธัมมชโย” วันที่ 17 มิ.ย.นี้ ย้ำเป็นหน้าที่ของดีเอสไอในการดำเนินการ หากถูกมวลชนขัดขวางหรือช่วยเหลือ มีความผิด ม.189
วันนี้ (15 มิ.ย.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเปิดเผยความคืบหน้าคดีพระธัมมชโย ผู้ต้องหาในคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร กรณีเป็นผู้รับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่น หลังดีเอสไอร่วมหารือกับตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อผสานกำลังเข้าจับกุมในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องพนักงานสอบสวนดีเอสไอบุกเข้าจับกุมพระธัมมชโยในวันดังกล่าว เนื่องจากเป็นหน้าที่ของชุดทำงานเอง โดยการประชุมหารือร่วมกันระหว่างดีเอสไอกับตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย หากพร้อมเมื่อไหร่ก็เข้าจับกุม ส่วนการหารือกับคณะสงฆ์ได้ยุติบทบาทนั้นซึ่งดีเอสไอทำทุกวิถีทางเพื่อให้เรียบร้อย ไม่อยากให้เกิดปัญหา และหากทางสงฆ์ยุติก็ไม่มีปัญหาแต่กฎหมายไม่สามารถยุติได้ ต้องเดินหน้าต่อไป
“การจับกุมผู้ต้องหาเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน หากเข้าไปวัดพระธรรมกายไม่มีใครรู้ ถ้าเกิดการสูญเสียก็ไม่เข้า พร้อมบอกกับศาลและอัยการว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนเข้าไปวัดพระธรรมกายและถูกมวลชนขัดขวางให้ถ่ายรูปบันทึกเป็นหลักฐานก็จะตามจับกุมทีหลัง ฐานความผิดมาตรา 189 ผู้ใดช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือไม่ให้ถูกจับกุม เข้าข่ายมีความผิดไปด้วย” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนได้ใช้หลายทางในการดำเนินคดี ทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายสงฆ์ รวมทั้งสังคมก็เห็นเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนกฎหมายมาตลอด และสิ่งนี้จะไปผูกมัดตัวผู้ต้องหาไปเอง นอกจากนี้ หากพระธัมมชโยมาตามหมายเรียกก็จบ ได้ประกันตัว จนกระทั่งตอนนี้เรื่องยุ่งยาก พนักงานสอบสวนอาจคัดค้านการประกันตัวก็ต้องถอดผ้าเหลือง อย่างไรก็ตาม อีก 1 เดือนหลังจากนี้ทางอัยการจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมและอยากให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะไม่แน่ว่าอัยการจะสั่งหรือไม่