MGR Online - “ดีเอสไอ” เผยยันยังไม่เห็นหนังสือขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีพระธัมมชโย ลั่นหากเปลี่ยนตัวอาจกระทบคดีอื่นในวันข้างหน้า รับหากรวบรวมหลักฐานเสร็จส่งสำนวนให้อัยการฟ้องทันที
วันนี้ (10 มิ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร หลังทนายความวัดพระธรรมกายยื่นเงื่อนไขให้มีการเปลี่ยนตัวคณะพนักงานสอบสวน ว่ากรณีทางวัดพระธรรมกายให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นหนังสือแจ้งมาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดีเอสไอดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตฯ คลองจั่น และพวก กว่า 10 คดี ทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ส่วนพระธัมมชโยตั้งแต่ขั้นตอนการออกหมายเรียกกระทั่งมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับนั้น ยืนยันว่าทำตามกรอบกฎหมาย พร้อมทั้งดำเนินการรูปแบบคณะกรรมการ มีพนักงานอัยการและที่ปรึกษาคดีพิเศษร่วมประชุมหารือทุกครั้ง
“ผมยังไม่เห็นเรื่อง และต้องพิจารณาดูว่าหากเปลี่ยนพนักงานสอบสวนตามคำร้องมาไม่มีเหตุผลความจำเป็นก็ต้องขอยืนยันว่าไม่เปลี่ยน เพราะว่าถ้าพิจารณาแล้วหากวันหน้าเป็นคดีอื่นขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนเสียหมดจะดำเนินการอย่างไร ยกเว้นถ้าผู้ร้องมีเหตุผลสมควร แต่คดีนี้ที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนทำตามกระบวนการกฎหมาย รวมทั้งประชาชนให้ความสนใจทำให้ทุกอย่างต้องยึดกฎหมายเป็นหลักทุกขั้นตอน นอกจากนี้ คดีดังกล่าวตาม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แจ้งว่าทั้งหมดมี 5 ส่วนและการนำเรื่องนี้ไปเรียนคณะปกครองสงฆ์เป็นเพียงส่วนเดียว สำหรับคดีความก็ดำเนินการต่อเนื่องไม่ได้ล่าช้าอะไร อย่างไรก็ตาม การสรุปสั่งฟ้องได้เมื่อไหร่นั้นคาดว่าเร็วๆนี้และกำลังดำเนินการอยู่” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นแนวโน้มจะได้ตัวพระธัมมชโยไปส่งฟ้องมีโอกาสไหมหรือจะไม่รอแล้ว พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ตนขอเรียนว่าการดำเนินคดีนั้น เมื่อคณะพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนก็สามารถส่งให้อัยการได้ทันที รวมทั้งสำนวนคดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเพราะต้องนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล และขอเวลาให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนเสียก่อน