MGR Online - “อธิบดีดีเอสไอ” เตือนลูกศิษย์วัดพระธรรมกายแจ้งเอาผิดคนอื่นไปทั่ว ระวังผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร หลังการประชุมหารือ 3 ฝ่ายยังไม่ได้ข้อยุติ ว่าการดำเนินคดีต่อพระธัมมชโยนั้นทางดีเอสไอดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายตลอด ตั้งแต่การออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้มาพบพนักงานสอบสวน แต่ท่านได้ขอเลื่อนเข้าพบเนื่องจากอาการอาพาธเจ็บป่วย กระทั่งมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนวันนี้การดำเนินการของดีเอสไอก็ยังอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายพร้อมทั้งให้ความอะลุ่มอล่วย แต่ท้ายสุดดีเอสไอต้องคำนึงถึงข้อปฏิบัติต่างๆ และหากดำเนินการผิดกฎหมายทางอีกฝ่ายจะมองว่าพนักงานสอบสวนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า ส่วนเงื่อนไขทางวัดพระธรรมกายให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนนั้นตนยังไม่ได้รับหนังสือและยังไม่เห็น ขอเรียนว่าหากทางวัดพระธรรมกายและทนายความมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถสอบถามหรือยื่นหนังสือเพื่อขอชี้แจงได้ โดยตนต้องดูรายละเอียดว่าสิ่งที่ทางวัดพระธรรมกายแจ้งมาไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวข้องกับอะไร ถ้าหากพนักงานสอบสวนทำงานตามระเบียบถูกต้องแล้วจะให้เปลี่ยนก็คงไม่มีเหตุผลต้องเปลี่ยนแต่อย่างใด รวมทั้งขอเรียนว่าการสอบสวนคดีนี้ทำเป็นรูปคณะกรรมการ มีพนักงานอัยการและที่ปรึกษาคดีพิเศษร่วม การดำเนินการทุกขั้นตอนจะเป็นมติที่ประชุม
“ส่วนการเลื่อนประชุม 3 ฝ่ายไปเป็นวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ซึ่งอาจมองว่าใช้ระยะเวลานานไปหรือไม่นั้นเป็นการตัดสินใจร่วมกันของคณะกรรมการข้อตกลงที่ร่วมประชุมกัน ทั้งนี้ ในเรื่องการเจรจาทางสงฆ์ทางคณะผู้ปกครองสงฆ์ได้เป็นผู้ดำเนินการ แต่ในส่วนของแง่กฎหมาย ดีเอสไอดำเนินการมาตลอดและมองว่าไม่ได้มีความเสียหายหรือไม่ได้หยุดอะไรทั้งสิ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ตลอดและได้มีแผนปฏิบัติแต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติด้วย สำหรับกรณีสมาชิกสหกรณ์จะมายื่นหนังสือให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อกลุ่มอื่นบ้างแต่ได้ยกเลิกเดินทางมาดีเอสไอ ซึ่งจริงแล้วเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อทุกกลุ่มเพียงแต่ว่าสื่อถามเฉพาะพระธัมมชโย ซึ่งทั้งหมดมีประมาณ 10 กว่าคดี” อธิบดีดีเอสไอกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาออกมาเตือนลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่ไปฟ้องบุคคลต่างๆ ที่วิจารณ์พระธัมมชโย อาจเข้าข่ายผิด ม.173 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทําความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทําความผิด ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวปิดท้ายว่า เป็นสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของลูกศิษย์พระธัมมชโย ตนจึงขอเรียนว่าดีเอสไอทำตามข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย แต่ส่วนอื่นใครทำผิดกฎหมายต่างๆ หรือพนักงานสอบสวนเองหากทำตามกฎหมายแล้วถูกกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้งเขา เรามีสิทธิจะดำเนินคดีต่อบุคคลนั้นอยู่แล้ว
