MGR Online - “ไพบูลย์” ตัวแทนหลวงปู่พุทธะอิสระ ยื่นฟ้อง ศาลอาญา 8 ลูกศิษย์ “ธัมมชโย” แจ้งความเท็จ แสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ใส่ทำความคณะสงฆ์แตกร้าว เจตนาไม่สุจริต กลั่นแกล้งฟ้องให้ถูกดำเนินคดีตามต่างจังหวัด ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 17 ต.ค.นี้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่น ฟ้องนางฉวีวรรณ คำธนะ, นายกฤษดา บรรพชาติ, นายเอกชัย ดีเสนาตระกูล, นายอติชาต ตันแก้ว, นายจีระพัฒน์ แจ่มเงินวัฒนากูล, นางสุภาภรณ์ บุญเริ่ม, นางธรรมพร ประมวลโกศลยุต, นายคณิต อิรนพไพบูลย์ เครือข่ายศิษย์ธัมมชโยในจังหวัดต่างๆ เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำผิดอาญา แกล้งให้ต้องรับโทษอาญา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือไขข่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 173, 174, 326, 328, 83, 91
สรุปพฤติการณ์ว่า จำเลยทั้งหมดมีเจตนาร่วมกันไปดำเนินแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร จังหวัดราชบุรี นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยะลา เชียงใหม่ รวม 6 จังหวัด โดยมีเจตนาไม่สุจริต เพื่อให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื่อว่าโจทก์กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช และใส่ความคณะสงฆ์ ทำให้โจทก์ทั้งสองถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชน เสื่อมเสียชื่อเสียง
ศาลได้รับคำร้องโจทก์ไว้พิจารณาไต่สวนมูลฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1749/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 17 ต.ค. 2559 เวลา 09.00 น.
นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนและตัวแทนหลวงปู่พุทธะอิสระมายื่นฟ้องบุคคล 8 รายที่ไปแจ้งความตนเองและหลวงปู่พุทธะอิสระต่อสถานีตำรวจใน 6 จังหวัด คือ จ.ราชบุรี นครราชสีมา อุบลฯ ยะลา เชียงใหม่ และศรีสะเกษ ซึ่งการดำเนินการของบุคคลดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์และเครือข่ายธัมมชโย โดยอ้างว่าดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราช ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ มาตรา 44 ทวิ แต่ตนเห็นว่าการแจ้งความดังกล่าวเป็นการนำความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ตนเองถูกดำเนินคดีอาญา และทำให้เสียหายถูกเกลียดชังจากผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง
นายไพบูลย์กล่าวว่า การกล่าวหาตนเองดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราชนั้น ความจริงทุกคนทราบดีว่าขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชแต่อย่างใด และการกล่าวหาว่าตนทำให้คณะสงฆ์แตกแยกนั้น ข้อเท็จจริงตนเพียงแค่ทำหน้าที่ตรวจสอบให้กระบวนการทั้งหลายของคณะสงฆ์เป็นไปตามพระธรรมวินัย และตามกฎหมาย เพื่อทำจริงความถูกต้องให้กับสังคม และยืนยันจะดำเนินคดีต่อผู้ใส่ร้ายตนเองให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ตนยังอยากจะให้พระธัมมชโยที่ระบุว่ามีอาการเจ็บป่วย ยอมรับการตรวจรักษาจากตัวแทนแพทยสภา และไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อดีเอสไอเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพราะเหตุใดจึงได้ออกมาเคลื่อนไหวประเด็นพระธัมมชโย นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนออกมาเคลื่อนไหวภายหลังจากเป็นคดีขึ้นแล้ว และเราจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้นถ้าพระธัมมชโยไม่หลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรม ยอมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อต่อสู้คดี
เมื่อถามถึงประเด็นที่ทางวัดพระธรรมกายถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ภาพของวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโยอาจจะถูกมองไปเกี่ยวกับการเมืองตั้งแต่การก่อนจะมีคดีนี้แล้วในหลายๆ โอกาส หลายวาระซึ่งทุกท่านก็ทราบ อีกทั้งลูกศิษย์หลายท่านก็เป็นนักการเมือง