โจ๋มือแทงวิศวะดับ รับก่อเหตุหวังชิงรถขับกลับบ้าน ขณะคุมตัวทำแผนญาติหวิดสหบาทา

MGR Online - น.1 แถลงจับโจ๋วัย 19 มือแทงวิศวะดับย่านลาดพร้าว รับสารภาพหวังชิงรถขับกลับบ้าน เผย หลังก่อเหตุหนีกบดานที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนโดนจับได้ ขณะทำแผนจุดทิ้งเสื้อยีนส์ ญาติผู้ตายหวิดเข้ารุมสหบาทา

วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นศ. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตร์สาทร ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ลานสกา พ.ต.ท.คมสันต์ บดิกาญจน์ รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายวรัญญู ชูมณี อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 823/126 ซ.ศูนย์บันเทิงการค้า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1014/2559 ลงวันที่ 31 พ.ค. 59 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์ และพาอาวุธติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหุบเขาบ้านช่องลม หมู่ 2 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เวลาประมาณ 12.00 น.

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ค. เวลาประมาณ 18.40 น. ผู้ต้องหาได้ลงมือก่อเหตุแทง นายนเรศ หวังทางมี อายุ 33 ปี วิศวกรบริษัท วิซเวอร์ค จนเสียชีวิต อีกทั้งยังหวังชิงรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าหมู่บ้านกลางเมือง ใกล้แยกรัชดา - ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ก่อนหลบหนีไป ต่อมาฝ่ายสืบสวน กก.สส.บชน. สืบทราบมาว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

นายวรัญญู ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยในวันเกิดเหตุในช่วงเช้าตนขับรถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักในหมู่บ้านฉัตรแก้ว ก่อนนำมาจอดไว้หน้าห้างน้อมจิตต์ ย่านบางกะปิ หลังจากนั้น ขึ้นรถเมล์เพื่อไปพบแพทย์ที่ รพ.รามา ตรวจแขนที่ถูกคู่อริลอบยิงที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้ปัจจุบันทำงานอะไรไม่ได้ ต้องมาขับวินจักรยานยนต์รับจ้างที่หน้าหมู่บ้าน แต่พักหลังขับไม่ไหว หลังจากตรวจร่างกายที่ รพ. เสร็จก็ขึ้นรถเมล์เพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนมีอาการเมารถจะอ้วก จึงได้ลงรถมา หลังจากนั้น ได้คิดว่าจะหารถจักรยานยนต์ขับกลับบ้าน จนเดิมมาพบผู้ตายนั่งคร่อมรถอยู่ จึงเดินเข้าไปใช้อาวุธมีดแทงไป 1 ครั้ง ไม่คิดว่าจะทำให้เสียชีวิต ตนหวังเพียงแค่จะนำรถขับกลับบ้านเท่านั้น

นายวรัญญู กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุได้วิ่งข้ามไปถอดหน้ากากอนามัย และเสื้อยีนส์ที่ใส่มาทิ้งใน ซ.ลาดพร้าว 36 ก่อนเดินข้ามฝั่งมาขึ้นรถเมล์ ปอ.สาย 514 กลับบ้านพักในหมู่บ้านฉัตรแก้ว หลังจากนั้น ได้เก็บข้าวของแล้วให้เพื่อนขับรถไปส่งตนขึ้นรถที่หน้า ม.รามคำแหง เพื่อขึ้นรถทัวร์ไปซ่อนตัวที่บ้านป้าใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จนมาถูกจับกุมในที่สุด ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ ตนได้ทิ้งไว้ในห้องน้ำระหว่างที่รถทัวร์พักรถ แต่จำไม่ได้ว่าที่ใด

ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายนายวรัญญู เบื้องต้นพบว่า นายวรัญญู มีการเสพกัญชามาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม จะนำตัวนายวรัญญู ไปตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวรัญญู มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 5 จุด จุดแรก บริเวณปากซอยลาดพร้าว ซ.9 ซึ่งเป็นจุดที่ลงรถเมล์หลังจากกลับจาก รพ.รามา จุดที่ 2 บริเวณ ซ.ลาดพร้าว 15 หน้าร้านขายข้าวหน้าเป็ด ซึ่งเป็นจุดที่นายวรัญญูเดินผ่าน จุดที่ 3 บริเวณหน้าหมู่บ้านกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดที่นายวรัญญู ใช้อาวุธมีดแทงนายนเรศ จนเสียชีวิต จุดที่ 4 บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 36 ซึ่งเป็นจุดที่ นายวรัญญู มาถอดหน้ากากอนามัย และเสื้อยีนส์ที่ใส่มาทิ้ง และจุดสุดท้ายบริเวณป้ายรถเมล์ ซ.ลาดพร้าว 35 ซึ่งเป็นจุดที่นายวรัญญูขึ้นรถเมล์ เพื่อไปลงที่ย่านแฮปปี้แลนด์ อย่างไรก็ตาม การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ มีญาติผู้เสียชีวิตมาสังเกตการณ์การทำแผนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังตำรวจสน.พหลโยธิน และ บก.น.2 คุ้มกันการทำแผนอย่างเข้มงวด ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงแล้วเสร็จก่อนนำตัวนายวรัญญูกลับมาควบคุมต่อที่ สน.พหลโยธิน

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะควบคุมตัวนายวรัญญู ระหว่างการทำแผนจุดที่ 3 เพื่อที่จะไปชี้จุดทิ้งเสื้อยีนส์นั้น และกำลังจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ ญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมประชาชนที่มามุงดูการทำแผน ได้พยายามที่จะเข้าไปทำร้ายนายวรัญญู จึงทำให้เกิดการชุลมุนอยู่เล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายวรัญญูไปทำแผนต่อยังจุดที่ 4 และเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความเรียบร้อยมากขึ้น