“บิ๊กต๊อก” จับมือ “จีน” ปราบยาเสพติด-สกัดสารตั้งต้นพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง

MGR Online - รมว.ยุติธรรมเซ็นลงนามร่วมกับทางการจีน ร่วมกันควบคุมสารตั้งต้น-เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ให้เป็นที่ลำเลียงยาเสพติด พร้อมแลกเปลี่ยนข่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามยาเสพติด

วันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. โรงแรมแชงกรี-ลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายต่ง เจียลู่ รองอธิบดีกรมรักษาความสงบสาธารณะ มณฑลยูนนาน กระทรวงรักษาความสงบสาธารณะ ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามพิธีสารความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด ระหว่างคู่ภาคี สำนักงานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดแห่งมลฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 แห่งราชอาณาจักรไทย พร้อมด้วยคณะฝ่ายไทย นำโดยนายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส. นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 และคณะฝ่ายมณฑลยูนนาน สปป.จีน เพื่อประสานความร่วมมือกันควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่จะสามารถควบคุมและลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย ป.ป.ส.ภาค 5 เป็นหน่วยงานปฏิบัติตามวัตถุประสงค์แห่งความตกลงนี้ มีนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค 5 เป็นผู้ลงนาม และคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดแห่งมณฑลยูนนาน เป็นหน่วยงานปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ตามความตกลงนี้ โดยมีนายจู ซีหมิง ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ ป.ป.ส. มณฑลยูนนาน เป็นผู้ลงนาม ซึ่งข้อตกลงนี้กำหนดให้มีการประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกปี โดยผลัดเปลี่ยนการเป็นเจ้าภาพ ในกรณีเร่งด่วนอาจประชุมพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งเวลาและสถานที่ของการประชุมจะมีการหารือและตกลงร่วมกันระหว่างคู่ภาคีทั้งสอง

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องอาศัยการประสานความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดระหว่างกัน โดยดำเนินการอยู่บนหลักการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีอยู่บนพื้นฐานแห่งความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศทั้งสอง โดยภายใต้บังคับของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของภาคีแต่ละฝ่ายจะให้ความร่วมมือกัน คือ

1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทั้งกลุ่มขบวนการการค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติด แหล่งผลิต เส้นทาง รวมถึง การสืบสวนทางการเงิน และการสกัดกั้นสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ด้วย และ 2. การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด รวมถึงการการติดตามและช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งนี้ การประสานความร่วมมือและพลังร่วมในการปราบปราม แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดของประเทศร่วมกันอย่างจริงจัง รวมทั้งการเชื่อมโยงการประสานงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด จะทำให้การปฏิบัติงานด้านยาเสพติดของทุกประเทศประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การดำเนินการต่ออาชญากรรมยาเสพติดระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป