โฆษกวัดพระธรรมกายยัน “พระธัมมชโย” อาพาธจริง ปัดเข้มงวดสื่อ

MGR Online - โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายพร้อมคณะแพทย์ แถลงยันอาการ “พระธัมมชโย” ทรุดหนักตั้งแต่ 22 เม.ย.เป็นโรคเบาหวานแพ้สารเคมี เกิดอาการเวียนศีรษะหน้ามืดก่อนเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวง ยันยังเคารพกฎหมายไม่หลบหนี ปัดเข้มงวดสื่อเข้าพื้นที่

วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่วัดพระธรรมกาย นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และ ร.อ.ท.นพ.ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ แพทย์ผู้ตรวจรักษาอาการอาพาธให้แก่พระธัมมชโย ออกมาแถลงการณ์อาการอาพาธของพระธัมชโย หลังพระธัมมชโยไม่เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวงเมื่อวานนี้

นายองอาจกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสื่อทุกท่านและทุกๆ ท่านที่คอยติดตามข่าวสารวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้มีสื่อมาเป็นจำนวนมากซึ่งก็มีการต้อนรับและดูแลอย่างดี โดยให้ศิษยานุศิษย์เข้ามาดูแล ส่วนบางสื่อที่ไม่ได้มา แล้วมีการนำเสนอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือทางวิทยุสื่อสารต่างๆ ว่าทางวัดพระธรรมกายมีการปิดกั้นสื่อไม่ให้เข้าในพื้นที่วัดซึ่งไม่เป็นความจริง ในขณะนี้มีสื่ออยู่ที่วัดพระธรรมกายจำนวนมาก เรายินดีต้อนรับทุกท่าน ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนั้นก็มีการตรวจสอบบางพื้นที่ โดยเฉพาะหากเข้าในพื้นที่สำคัญก็ต้องมีการคัดกรองบ้าง ส่วนที่มีข่าวของพระธัมมชโยนั้น โลกของเราอยู่ด้วยการเคารพกัน และกฎหมาย ที่ผ่านมามีคนติดตามข่าวสารจำนวนมาก เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น อาการอาพาธของพระธัมมชโชก็ทรุดหนักยิ่งขึ้น แต่พระธัมมชโยก็ยังให้ความเคารพทุกองค์กร ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

นางองอาจกล่าวอีกว่า บ้านเมืองเราเป็นบ้านเมืองที่เคารพกฎหมาย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังเช่นเมื่อวานขึ้น ขณะที่พระธัมมชโยกำลังจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวง แล้วเกิดหน้ามืด เวียนศีรษะ เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าพระธัมมชโยเคารพกฎหมาย และบรรดาศิยานุศิษย์ที่เดินทางไปที่ สภ.ด้วยความสงบเรียบร้อยนั้นต่างไปให้กำลังใจ หากผู้ใดอ้างว่าเป็นการจัดฉากหรือกลับกลอกนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ด้าน ร.อ.ท.นพ.ชูชัยกล่าวว่า พระธัมมชโยมีอาการอาพาธจากโรคเบาหวาน และแพ้สารเคมีมานานแล้ว ในช่วงหลังมานี้พระธัมมชโยพักผ่อนได้น้อยเนื่องจากปวดขาข้างซ้าย และร่างกายอ่อนเพลียมาก แพทย์กังวลใจว่าถ้าหากพระธัมมชโยเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อน จึงลงความเห็นว่าไม่ควรเคลื่อนย้ายพระธัมมชโยไปไหน เพราะเนื่องจากเมื่อวานที่มีการตกลงกันว่าพระธัมมชโยจะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวงในเวลา 14.30 น.นั้น เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พระธัมมชโยมีอาการอาพาธ ทางคณะแพทย์จึงถวายยารักษาและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าอาการอาพาธของพระธัมมชโยไม่ทุเลาลง จึงลงความเห็นว่าไม่ควรเคลื่อนย้าย และทนายได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อว่าพระธัมมชโยไม่สะดวกมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวง