MGR Online - ผบ.ตร.แถลงจับคนร้ายปล้นรถขนเงินบริษัทแซมโก้ ร่วม 8.8 ล้านบาท หนีไปกบดานย่านปทุมธานี ตามยึดเงินสดคืนได้ 5.9 ล้านบาท ตรวจสอบพบมีหมายจับร่วม 4 หมาย ขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ฝาก จนท.ปรับแผนป้องกันเหตุปล้น
จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นรถขนเงินบริษัท สยามแอดมินนิส เทรทีฟ แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือแซมโก้ ได้เงินสดไป 8.8 ล้านบาท โดยเกิดเหตุบริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ เมืองพัทยา ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลาประมาณ 18.00 น.ที่ผ่านมา
วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบก.สส.ภ.2 และ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอิทธิเดช หรือนายพรสวรรค์ หรือนายเก่ง โพธิ์มี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่3 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสดฉบับละ 1,000 บาท และฉบับละ 100 บาท จำนวน 5,895,100 บาท, กระเป๋าเป้สีเขียวที่บรรจุเงิน, รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎย 3201 กทม.(ใช้เงินที่ได้จากก่อเหตุซื้อมา), อาวุธปืนกึ่งออโตเมติกยี่ห้อ COLT รุ่น MK IV SERIES 70 .38 SUPER พร้อมกระสุนปืนขนาดขนาด .38 SUPER จำนวน 33 นัด และซองบรรจุกระสุนจำนวน 5 ซอง, ซองสำหรับใส่แมกกาซีนบรรจุกระสุนปืน 2 อัน, ซองปืนหนังสีดำ 2 อัน, เข็มขัดหนังสีดำสำหรับใช้พกปืน 1 เส้น, ซองพกปืนแบบสะพายไหล่ 1 เส้น และยางรัดเงิน 25 เส้น โดยสามารถจับกุมได้บริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัสเอ็กซ์ตร้า หมู่ 13 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 เม.ย. เวลาประมาณ 14.00 น.
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์จากพนักงานขนเงิน บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ เมืองพัทยาได้เงินสดไปจำนวน 8.8 ล้านบาท แล้วขับขี่จักรยานยนต์หนี ภายหลังจากการเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนร้ายจึงขออนุมัติหมายจับจังหวัดพัทยาทันที
ด้าน พล.ต.ต.กิตติศักดิ์กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน .38 SUPER และหัวกระสุนปืน หลังจากเกิดเหตุได้มีการประชุมแบ่งงานเพื่อตรวจสอบที่มาของอาวุธปืน จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-น้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ฬกบ 183 กทม. ซึ่งจักรยานยนต์คันดังกล่าวผู้ต้องหาซื้อมาในราคา 6,000 บาท โดยผู้ต้องหาสำรวจเส้นทางการก่อเหตุ 3 วันก่อนลงมือ และในช่วงปลายเดือน ผู้ต้องหานำเงินไปซื้อรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎย 3201 กทม. จำนวน 1 คัน ในวงเงิน 550,000 บาท พร้อมทั้งนำเงินสดจำนวน 5,900,000 บาท และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเก็บไว้ที่ท้ายรถอีกด้วย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤกติการณ์และยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ
จากการตรวจสอบข้อมูลหมายจับกับศูนย์ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (POLICE DATA CENTER ) ปรากฏว่าผู้ต้องหามีหมายจับ จำนวน 4 หมาย คือ 1. หมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่142/2548 ลงวันที่ 7 เม.ย. 2548 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ของ สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร 2. หมายจับของศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 308/2556 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2556 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานพยายามฆ่า ของ สภ.เมืองพิจิตร 3. หมายจับของศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 212/2557 ลงวันที่ 11 ก.ย. 2557 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ของ สภ.เมืองพิจิตร และ 4. หมายจับของศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 193/2557 ลงวันที่ 22 ส.ค. 2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ของ สภ.ตะพานหิน จ.กำแพงเพชร
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อยากจะขอฝากคดีดังกล่าวไว้เป็นอุทาหรณ์ เพราะไม่ว่าจะมีคดีอะไรเกิดขึ้นต้องจับคนร้ายให้ได้ อย่างกรณีนายอิทธิเดช หรือพรสวรรค์ หรือเก่งนั้น เชื่อว่าถ้าเลือกที่จะก่อเหตุเช่นนี้แล้วหากเจอเจ้าหน้าที่คงมีการต่อสู้แน่นอน ส่วนคดียกตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริเวณหน้าสำนักงานเงินติดล้อศรีสวัสดิ์ สาขาถนนกิ่งแก้ว ปากซอยกิ่งแก้ว 22/1 เลขที่ 60 หมู่ 3 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้ และขอฝากให้มีการปรับแผนงานป้องกัน เนื่องจากที่เมืองพัทยามีเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงอยากให้กำลังเจ้าหน้าที่ในจังหวัดใกล้เคียง หรือในจังหวัดที่มีเหตุเกิดน้อยให้มาปฏิบัติหน้าที่ที่พัทยาเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุ เชื่อว่าถ้าในพื้นที่มีตำรวจเยอะ โอกาสที่จะเกิดเหตุก็ลงน้อยลง