MGR Online - ตำรวจกองปราบปรามแถลงจับ “เจ๊ต้อย” ตุ๋นแรงงานไทยหลอกไปเก็บผลไม้ที่แคนาดา เสียค่าใช้จ่ายหัวละ 2 แสนบาท เหยื่อลงเชื่อสูญเงินร่วม 10 ล้านบาท รับสารภาพได้ไปทำจริงแค่ 10 ราย หนีหมายจับร่วม 9 ปี แถมหมายจับติดตัวอีกกว่า 6 หมาย
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อภิชาติ อภิชานนท์ พ.ต.ท.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สว.กก.3 บก.ป.แถลงผลจับกุม นางรังศิมา ไชยนิคม หรือเจ๊ต้อย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ต.ห้วยเตย อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 949/2552 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 ข้อหาร่วมกันจัดหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนกลาง, หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 135/5 หมู่ 2 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหามีได้ร่วมกับ นายเด่นภูมิ ทาแก้ว อายุ 42 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู และนางอุมารินทร์ จอมทรักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ สองสามีภรรยาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เปิดบริษัท รวมไทยสากล จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม หลอกลวงแรงงานที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ว่าสามารถจัดหางานเก็บผลไม้ที่ประเทศแคนาดา มีค่าตอบแทนและรายได้ดี แต่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรายละ 2 แสนบาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาจ่ายให้แล้วกลับไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยบางรายถึงกับต้องนำที่ดินไปจำนองเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานดังกล่าวจนเกิดความเสียหายเป็นมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท โดยพบว่าผู้ต้องหาร่วมกับพวก ก่อเหตุมานับตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ในพื้นที่กว่า 5 จังหวัดของภาคอีสาน โดยมีคดีเกิดขึ้นนับ 10 คดี แต่บางคดีก็ขาดอายุความไปแล้ว
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นพนักงานของบริษัทจัดหางานดังกล่าว ที่ผ่านมาจะลงพื้นที่ชักชวนแรงงานที่มีความสนใจเดินทางไปทำงานยังประเทศแคนาดา โดยมีแรงงานเดินทางไปทำงานจริง 10 ราย ส่วนที่เหลือไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะได้ส่วนแบ่งจากจัดหางานดังกล่าวเป็นเงิน 20,000-50,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือจะนำส่งให้กับนายเด่นภูมิ และ นางอุมารินทร์ สองสามีภรรยา แต่หลังจากเริ่มมีการแจ้งความดำเนินคดีนับตั้งแต่ปี 2550 ตนได้ย้ายสถานที่ทำงานโดยไปทำงานเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ พนักงานทำความสะอาด แต่ยังคงหลอกชาวบ้านที่ต้องการเดินทางไปทำงานเช่นนี้อยู่ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ทางชุดสืบสวน กก.3 บก.ป.จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนขยายผลการจับกุมว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการหลอกลวงแรงงานเดินทางไปทำงานต่างประเทศรายอื่นๆ หรือไม่ ส่วนผู้ต้องหารายนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่อีกถึง 6 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม 2 หมาย, หมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา 2 หมาย, หมายจับศาลจังหวัดหนองบัวลำภู และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในความผิดตาม พ.ร.บ.แรงงานฯ เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
