MGR Online - ตร. กองปราบ ตามล็อกหนุ่มหนีหมายจับคดียาบ้า เผยพฤิตกรรมเสพติดอย่างหนัก คลั่งทุบตี พ่อ - แม่ บังเกิดเกล้า บังคับหาเงินซื้อยาให้เสพ ขณะทีพ่อผู้ต้องหาเผยเคยถูกทำร้ายจนต้องไปกบดานบ้านญาติ ยังหวังให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พบเคยต้องโทษคดีลักษณะนี้มาแล้วกว่า 6 ครั้ง
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก นาคธร สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง สว.กก.2.บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายพูนศักดิ์ พากเพียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมือง จ.ยโสธร ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 25/2558 ลงวันที่ 23 ม.ค. 58 ในความผิดฐานครอบครองยาบ้า ได้ที่ หน้าหมู่บ้านวราภิรมย์ ลำลูกกา คลอง 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ว่า มีผู้พบเห็น นายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายนี้หนีคดีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของบิดามารดา ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ประกอบกับมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอย่างหนัก จนบางครั้งเกิดอาการหลอน คลุ้มคลั่ง ลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายบิดามารดา รวมถึงทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเกิดความหวาดกลัวแ ละเกรงว่า หากปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้กระจายกำลังลงพื้นที่ ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าหมู่บ้านเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหารายนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในหมู่บ้าน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ นายพูนศักดิ์ ได้พยายามวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมจับกุมตัวได้
ต่อมา นายประยูร พากเพียร อายุ 58 และ นางชม พากเพียร อายุ 52 ปี บิดา - มารดา ของนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาที่กองปราบปราม โดยนายประยูรได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนกระเบื้อง มีบุตรชายเพียง 2 คน โดยก่อนหน้านี้ ครอบครัวของตนพอมีฐานะ เนื่องจากบุตรชายคนเล็กเป็นคนขยัน และเรียนเก่ง จบการศึกษาระดับปริญญาโท ได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คอยส่งเสียค่าใช้จ่ายภายในบ้าน แต่ต่อมาได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในภายหลัง เหลือเพียง นายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบุตรคนโต แต่ไม่เคยช่วยทางบ้านทำมาหากิน มีแต่คอยขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ กระทั่งระยะหลังครอบครัวตนเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาให้นายพูนศักดิ์ซื้อยาเสพ ทำให้ นายพูนศักดิ์ มักจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายตนและภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีครั้งหนึ่งรุนแรงถึงขั้นหยิบก้อนหินขนาดใหญ่มา เพื่อหวังจะทุ่มใส่ตนหมายเอาชีวิต เพียงแค่ตนหาเงินมาซื้อยาเสพให้ไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ครั้งนั้น มีเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถผ่านมาพอดี จึงทำให้ตนรอดตายอย่างหวุดหวิด
นายประยูร กล่าวอีกว่า ล่าสุด เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา นายพูนศักดิ์ ได้ใช้มีดและค้อนขู่บังคับให้นางชม ผู้เป็นมารดา ออกเดินตามหาตน เพื่อต้องการขอเงินไปซื้อยามาเสพ จนตนต้องหนีไปขอให้ตำรวจท้องที่มาช่วยเหลือ แต่เมื่อตำรวจมาถึงนายพูนศักดิ์ กลัวว่า จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกับนำเศษกระจกตู้ปลาที่ถูกทุบแตกมากรีดหน้าท้องจนเป็นแผลเหวอะหวะเพื่อขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาภายในบ้าน จนตำรวจต้องยอมเจรจาตกลงล่าถอยออกไป เพราะเกรงว่านายพูนศักดิ์จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ส่วนตนและนางชมต้องหนีไปพักอาศัยที่บ้านของญาติชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวว่า นายพูนศักดิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้ จึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ทั้งนี้ ตนเองก็หวังว่าการถูกจับกุมในครั้งนี้ของบุตรชายจะทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด และตนก็พร้อมจะให้อภัยลูกคนนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมต่อไป
จากการสอบสวน นายพูนศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยยอมรับว่า ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พ.ร.บ. ยาเสพติด ตามหมายจับจริง เนื่องจากเครียดที่ตนถูกภรรยาคนปัจจุบันทิ้งไปมีคนอื่น จนต้องหันมาพึ่งยาเสพติด เพื่อไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่าน แต่ไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบิดามารดาแต่อย่างใดเพียงแค่ด่าทอเท่านั้น แต่ยอมรับว่าโกรธและไม่พอใจที่ทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่ทำให้ตนต้องเลิกกับภรรยา
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ พบว่า ก่อนหน้านี้ เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 6 ครั้ง และหนีการรายงานตัวระหว่างการคุมประพฤติจนถูกออกหมายจับในคดีล่าสุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป