MGR Online - รอง ผกก.สน.บางกอกใหญ่ ฉายเดี่ยวไล่ล่าสองคนร้ายขณะจี้ชิงทรัพย์แท็กซี่ริมถนนเลียบคลองประปาย่านหลักสี่ ก่อน ตร.สายตามตรวจล็อกได้ 1 ราย พร้อม จยย.ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหารับสารภาพเมาติดลมอยากกินต่อจึงวางแผนก่อเหตุ
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ภูวเดช วณิชโยบล รอง สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ ทางวิทยุสื่อสารว่า เกิดเหตุคนร้าย 2 รายใช้จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์คนขับรถแท็กซี่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และพยายามติดตามจับกุม จึงแจ้งสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้อง รุดไปตรวจสอบ
โดยก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.เขมรินทร์กำลังขับรถยนต์ส่วนตัวกลับบ้านพักโดยใช้ถนนริมคลองประปา จนมาถึงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านชินเขต แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. สังเกตเห็นคนร้ายหนึ่งคนกำลังใช้อาวุธมีดแทงคนขับรถแท็กซี่เพื่อชิงทรัพย์ ส่วนอีกคนจอดจักรยานยนต์รออยู่ พ.ต.ท.เขมรินทร์จึงเข้าไปช่วยเหลือปรากฏว่าคนร้ายทั้งสองได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าเข้าจังหวัดนนทบุรี พ.ต.ท.เขมรินทร์จึงขับรถติดตามพร้อมขอกำลังสนับสนุน ต่อมาคนร้ายได้เลี้ยวเข้าไปในซอยประชาชื่น 14 แขวงทุ่งสองห้องเขตหลักสี่ กทม. บริเวณหน้าพีเอสแมนชั่น ซึ่งซอยดังกล่าวเปลี่ยวและมืดมาก
ขณะนั้นหนึ่งคนร้ายได้ใช้ก้อนหินขว้างใส่บริเวณใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ และมีท่าทีว่าคนร้ายจะเดินเข้ามา พ.ต.ท.เขมรินทร์จึงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่บริเวณขาของคนร้าย จากนั้นจึงลงไปควบคุมตัว แต่คนร้ายอีกคนวิ่งเข้ามาใช้ท่อนเหล็กกระหน่ำตีใส่ พ.ต.ท.เขมรินทร์ จึงยกแขนซ้ายขึ้นป้องกันตัวและตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ขาคนร้ายจนวิ่งหลบหนีไป ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.เขมรินทร์ก็ได้บาดเจ็บเลือดอาบใบหน้าไม่สามารถตามไปจับกุมได้ แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องสามารถตามมาจับกุมคนร้ายไว้ได้ 1 ราย
ด้าน ร.ต.ท.ภูวเดชกล่าวว่า คนร้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้องสามารถจับกุมตัวไว้ได้ทราบชื่อต่อมา คือ นายจาตุรนต์ หางสลัด อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนเฉี่ยวบริเวณเหนือหัวเข่าข้างขวา พร้อมจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน อทฬ 958 กรุงเทพมหานคร ส่วนคนร้ายอีกคนได้หลบหนีไปรักษาตัวที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ และถูกติดตามตัวได้ในที่สุดทราบชื่อนายธนากร จันทร์นิล อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณขาขวา ส่วน พ.ต.ท.เขมรินทร์ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า คิ้วแตก ดั้งหัก และกระดูกแขนซ้ายร้าว ได้รับการรักษาตัวที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ก่อนจะย้ายไปรักษาต่อที่ รพ.ตำรวจ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบสวนนายจาตุรนต์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ตนเองได้นั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนที่บ้านพักกันทั้งหมด 4 คน ภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 จากนั้นตกดึกเวลาประมาณ 02.00 น.ขณะกำลังเมาได้ที่และเบียร์หมด ด้วยอารมณ์ที่ค้างคาอยากกินต่อแต่ไม่มีเงินจึงชักชวนนายธนากรที่ดื่มอยู่ด้วยกันขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนดักจี้รถแท็กซี่เพื่อหาเงินไปซื้อเบียร์ โดยเริ่มจากหน้าบริษัท ทีโอที สาขางามวงศ์วาน โดยนายธนากรหลบซ่อนอยู่ในซอย ส่วนตนเองลงมาโบกรถที่แท็กซี่ที่วิ่งผ่านมา โดยอ้างว่าให้แท็กซี่ขับตามเข้าไปรับผู้โดยสารในซอยดังกล่าว หลังจากแท็กซี่ขับเข้ามาในซอยได้ประมาณ 500 เมตร นายจาตุรนต์ได้จอดจักรยานยนต์ไว้ข้างทางก่อนจะเดินไปมาหาคนขับแท็กซี่และเคาะกระจกข้างคนขับ เมื่อคนขับรถเปิดกระจก นายจาตุรนต์จึงเอามือเข้าไปบิดกุญแจรถแท็กซี่ออก ก่อนหยิบอาวุธมีดยาว 1 ฟุต จี้คนขับพร้อมบอกให้ส่งเงินมา คนขับแท็กซี่ได้ส่งเงินให้จำนวน 300 บาท แต่นายจาตุรนต์คืนเงินกลับไป 100 บาทแล้วหลบหนีไป
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า จากนั้นได้พากันขับขี่จักรยานยนต์ไปดักรออยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และโบกรถแท็กซี่คันใหม่เพื่อก่อเหตุซ้ำ แต่ขณะที่ตนกำลังจี้อยู่นั้นจู่ๆ มีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ขับมาชะลอดูและจอดขวางหน้ารถแท็กซี่ นายจาตุรนต์เห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีขึ้นจักรยานยนต์ที่นายธนากรจอดรออยู่และขับหลบหนีมุ่งหน้าออกถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อถึงบริเวณหน้าพีเอสแมนชั่น ปากซอยประชาชื่น 14 ตนได้ให้นายธนากรจอดจักรยานยนต์ ส่วนตนลงไปเก็บก้อนหินและซุ่มอยู่ข้างทาง เมื่อรถเบนซ์คันดังกล่าวขับผ่านมาโดยลดกระจกลงทั้งบาน ตนจึงปาก้อนหินเข้าใส่เข้าไปในรถจนรถหยุดนิ่ง และชักมีดเดินเข้าไปหาแต่ชายคนขับได้ชักอาวุธปืนยิงสวนจนตนเองโดนกระสุนเฉี่ยวบริเวณเหนือหัวเข่าขวาและได้วิ่งไปขึ้นจักรยานยนต์พยายามขับหลบหนีแต่ล้มลง ก่อนวิ่งหลบหนีไป โดยนายจาตุรนต์ได้วิ่งหนีเข้าป่าในซอยประชาชื่นนนทบุรี 9 ทิ้งเสื้อแจ็กเกตสีขาวคาดดำ และอาวุธมีด ก่อนย้อนกลับมาเอาจักรยานยนต์ พบว่านายธนากรหายตัวไป ส่วนตนเองถูกตำรวจจับกุม และทราบในภายหลังว่าคนขับรถเบนซ์เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่งรอง ผกก.สส.
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำตัวนายจาตุรนต์มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนำตัวไปชี้จุดทั้งหมด 5 จุด โดยจุดที่ 1 บ้านเลขที่ 21 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 2 ถ.สามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี บ้านที่ตั้งวงดื่มเบียร์กัน จุดที่ 2 บริเวณซอยข้างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขางามวงศ์วาน ถนนงามวงศ์วาน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จุดที่ใช้อาวุธมีดจี้แท็กซี่คันแรก จุดที่ 3 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จุดที่คนร้ายจะจี้แท็กซี่อีกคันและพบกับ พ.ต.ท.เขมรินทร์ จุดที่ 4 บริเวณซอยประชาชื่นนนทบุรี 9 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จุดคนร้ายได้ทิ้งเสื้อแจ็กเกตไว้ และจุดที่ 5 บริเวณหน้าพีเอส แมนชั่น ถ.ประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จุดที่คนร้ายเก็บก้อนหินแล้วดักซุ่มปาใส่รถ พ.ต.ท.เขมรินทร์ เป็นจุดที่เกิดการต่อสู้กันก่อนถูกและถูกจับกุมตัวได้
เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนต่อที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ ดำเนินการส่งฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษกต่อไป ส่วนนายธนากรต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่าเดิมก่อนจึงจะทำการสอบปากคำ ส่วนคนขับรถแท็กซี่ทั้งสองยังไม่เข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาให้ปากคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ จบการศึกษา โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 35 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 51 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2558 ได้รับรางวัล “ผู้มีผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย