MGR Online - ตำรวจบุกรวบแท็กซี่โชว์ช่วยตัวเองบนรถคาคอนโดมิเนียมย่านบางนา พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา พบเคยก่อเหตุลักษณะนี้กับนักศึกษาสาวในพื้นที่ดอนเมือง ก่อนคุมตัวดำเนินคดี
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Nawarat Punyaratchatapreeda ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์คนขับแท็กซี่ขณะกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง พร้อมระบุข้อความว่า “นั่งรถแท็กซี่มางานกาชาดคนเดียว เจอแท็กซี่ป้ายทะเบียน มฉ 4534 ตอนแรกนั่งคุยกันปกติ เอะใจละ ทำไมมันไม่มีชื่อ ไม่มีรูป นามสกุล สักพักหันไปมองที่คนขับแท็กซี่และเห็นคนขับกำลังช่วยตัวเอง” จึงรีบขอลงจากรถพร้อมขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สายตรวจแถวนั้น ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต โดยคลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่บนโลกโซเชียลมีเดียจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.24 น.ของวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา
วันนี้ (8 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ สน.ดุสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ดุสิต ได้ร่มกันจับกุม นายสุริยะ ปานเกษม อายุ 49 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านที่เลข 1000/77 คอนโดมิเนียม นิรันดร์ เรซิเดนซ์ ถนนอุดมสุข แขวงและเขตบางนา กรุงเทพมหานคร มาสอบสวนกับ พ.ต.ท.บุนชัยฤทธิ์ สิทธิทองจันทร์ รอง ผกก.สอบสวน สน.ดุสิต หลังสืบทราบและปรากฏหลักฐานว่า เป็นผู้ก่อเหตุอนาจารตามคลิปดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหาต่อนายสุริยะ รวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัลโดยเปลือยหรือเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น ขับรถ (รถยนต์แท็กซี่) โดยใบอนุญาติขับขี่รถสิ้นสุดลง และไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกกำหนดในเรื่องเครื่องแต่งกายเครื่องหมาย และการแสดงบัตรประจำตัวคนขับรถยนต์สาธารณะ (รถยนต์แท็กซี่) นั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. นายเจริญ พิรมพงษ์ อายุ 39 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่บ้านพัก พร้อมไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ดุสิต เบื้องต้นไม่ทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวและไม่เคยรู้จักกับนายสุริยะ เนื่องจากเจ้าของอู่รถแท็กซี่ที่ใช้ชื่อว่า “อู่เฮียจิม” ย่านรามอินทรา รู้จักสนิทสนมกันมานาน ได้ขอใช้ชื่อตนเองไปจดทะเบียนซื้อรถแท็กซี่คันก่อเหตุก่อนให้นายสุริยะมาทำสัญญาเช่าต่ออีกทอดหนึ่ง
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมายัง สน.ดุสิต นายเจริญได้เดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับถูกเปรียบเทียบปรับในข้อหาต่างๆ เช่น ฝ่าฝืนกฎกระทรวงเกี่ยวกับผู้ขับขี่ทางสาธารณะ มาตรา 5(15) โทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 2 ใบ ฝ่าฝืนกฎกระทรวง (ไม่จัดทำ) ส่งประวัติคนขับรถ 5 (15) โทษปรับ 500 บาท จำนวน 2 ใบ ซึ่งข้อหาดัวกล่าวตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนนายสุริยะเสร็จสิ้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสุริยะส่งศาลแขวงดุสิต ตลิ่งชัน เพื่อเปรียบเทียบปรับตามข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้ จากการสอบสวนประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.ดอนเมือง โดยเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาสาว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
