MGR Online - ทหารพระธรรมนูญพร้อม จนท.กว่า 50 นาย ลงพื้นที่ลุยจับสองแถวเถื่อนหน้าห้างบิ๊กคิงส์บางใหญ่ หลังทำรถผิดประเภทรับส่งผู้โดยสาร ก่อนขยายผลบุกค้นบ้านรวบหญิงคุมบัญชีรายรับ-จ่าย รับสารภาพส่งให้ สว.จร.สน.ทุ่งสองห้อง เดือนละ 60,000 บาท ขณะที่ “กำนันรอง” โร่แสดงตัวเป็นหนึ่งในเจ้าของร่วมกับ ตร.-ทหาร อ้างโดนกลั่นแกล้ง
วานนี้ (8 เม.ย.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารรัฐธรรมนูญ สังกัดกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พ.ท.เขมชาติ บุญญาจันทร์ ผบ.ปตอ.พัน 6 นายพิริยะ ฉันทดิลก นายอำเภอบางใหญ่ พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียน สว.จร. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กว่า 50 นาย นำกำลังไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กคิงส์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าจับกุมรถสองแถวเถื่อนสาย 1023 วิ่งระหว่างบางใหญ่ซิตี้-หมู่บ้านศรีประวัติ และวิ่งระหว่างวัดพระเงิน-ซอยกันตนา จำนวน 19 คัน โดยสั่งให้หยุดวิ่งทันที พร้อมแจ้งข้อหานำรถยนต์ผิดประเภทมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ขณะที่กำลังอีกชุดนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 164/278 หมู่บ้านพิชาดา ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีนางดรุณี หรือป้าติ๋ม วิระกุล อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของบ้าน พบเอกสารรายรับ-รายจ่ายในการวิ่งรถสองแถว พร้อมทั้งบัญชีส่วยส่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเดือนละกว่า 60,000 บาท จึงยึดไว้ตรวจสอบพร้อมนำตัวป้าติ๋มไปสอบปากคำที่ สภ.บางใหญ่ โดยรับว่าเป็นคนเก็บเงินให้แก่ พ.ต.ท.นรเศรษฐ์ เดชอุ่น สว.จร.สน.ทุ่งสองห้อง ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่รู้เรี่อง มีหน้าที่เพียงเก็บเงินเท่านั้น
พ.อ.บุรินทร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้ขัยขี่รถสองแถวถูกต้องวินแห่งนี้ร้องเรียนไปที่ คสช.ว่ามีรถสองแถวเถื่อนออกมาวิ่งทับเส้นทางเป็นจำนวนมากจึงได้ร่วมกับ พ.ท.เขมชาติ บุญญาจันทร์ ผบ.ปตอ.พัน.6 นายพิริยะ ฉันทดิลก นอภ.บางใหญ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทำการสืบสวนในทางลับและพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งทหาร ตำรวจ และอดีตกำนัน เข้ามาเกี่ยวข้องมีผลประโยชน์ในการคุมวินรถสองแถวแห่งนี้จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมรถเถื่อนเหล่านี้ทันที
เวลาต่อมานายวัฒนา พงษ์มาเกิด อายุ 64 ปี หรือกำนันรอง อดีตกำนันชื่อดังย่านบางกรวย ได้เดินทางมาที่วินรถสองแถวพร้อมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ทหารและยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของวินแห่งนี้ซึ่งมีหัวหน้าวินเจ้าของสัมปทาน 3 คน เป็นทั้งทหารและตำรวจ เหตุที่เกิดขึ้นคิดว่าคงเป็นการกลั่นแกล้งกัน ทางที่ดีควรเรียกมาเจรจาพูดคุยกันไปเลยว่าใครควรวิ่งอย่างไร แบ่งเส้นทางกันตรงไหน จะได้ไม่ต้องมีปัญหามาร้องเรียนกันเอง เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ต่อกำนันรอง แต่หากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้ใดเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลก็จะเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป