ตำรวจเก็บคราบผงเหล็กจากการเลื่อยตู้เซฟเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าของบุคคลในบ้าน เพื่อหาตัวคนร้ายลักทรัพย์บ้านเจ้าของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ เผย ประเมินจากขนาดตู้เซฟผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 2 ราย
วันนี้ (18 ม.ค. 59) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.บางแม่นาง พ.ต.ท.ศราวุธ คงคานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.บางแม่นาง พ.ต.ท.จิตติกุล แก้วกลางเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางแม่นาง สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี สืบสวนภูธรภาค 1 ได้ร่วมกันทำงานจัดทีมลงพื้นที่สืบสวนคดีคนร้ายบุกเข้าลักทรัพย์งัดภายในบ้านพักเจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชื่อดัง จ.นนทบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 17 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 9/7หมู่ 4 ซอยแก้วอินทร์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
คืบหน้าคดีวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนได้ทำการสอบปากคำบุคคลที่พักอาศัยทั้งหมดในบ้านไปแล้วกว่า 10 ปาก โดยในวันนี้ได้สอบปากคำนายแสง โกหลง คนงานในบ้านซึ่งขณะเกิดเหตุอาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานกับภรรยาเพียง 2 คน ซึ่งบ้านพักหลังดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เป็นรอบที่ 3 เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งวันนี้ได้มีการเก็บคราบผงเหล็กจากการเลื่อยตู้เซฟไปเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าของบุคคลในบ้านทั้งหมด เนื่องจากในคืนเกิดเหตุสภาพตู้เซฟภายในห้องนอนมีการเคลื่อนย้ายมาไว้กลางห้อง มีการนำหมอนมารองด้านล่างตู้เซฟ จากนั้นหงายตู้เซฟเอาด้านประตูหน้าขึ้น คนร้ายได้ใช้เลื่อยสำหรับเลื่อยเหล็กตัดบานพับประตูและทำการงัดประตูออก ก่อนนำทรัพย์สินทั้งหมดออกไป โดยไม่มีการแตะทรัพย์สินอื่น ๆ ในบ้าน ประเมินจากขนาดตู้เซฟคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 2 คน ทั้งนี้ ยังมีการตรวจสอบประตูเหล็กหลังบ้านที่คนร้ายตัดที่คล้องกุญแจเพื่อเข้าไปภายในบ้านเพื่อหาร่องรอยเพิ่มเติม
นางสาวพิศพรรณ ศรีไชยยันต์ อายุ 54 ปี เจ้าของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ได้เดินทางเข้าเพิ่มเติมรายการทรัพย์สินต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรายการเครื่องประดับทั้งหมดที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีทั้งหมดกว่า 124 รายการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 59 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับเพชร ทองคำ และพลอยชนิดต่างที่สะสมไว้
พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.บางแม่นาง เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่า สำหรับคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสนใจมาก ได้ส่งทีมงานชุดสืบสวนทั้งของจังหวัดนนทบุรีและภูธรภาค 1 ได้แบ่งงานกันไปทำ ความคืบหน้ายังไม่มาก ประเด็นที่สงสัยพยายามตรวจสอบทั้งหมดเพื่อจะติดตามคนร้ายให้ได้ สำหรับกลุ่มผู้ต้องสงสัยกว้างมาก ร่องรอยในที่เกิดเหตุได้น้อย สภาพที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่ช่องว่างของช่วงเวลาเยอะ ต้องตรวจสอบว่าใครบ้างที่รู้ว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ ขณะนี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรายทาง อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อต้องสงสัยต่าง ๆ ไม่ว่าคดีเล็กหรือใหญ่ คนจนคนรวยอยากจับให้ได้ทั้งหมด