แพทยสภาตั้งอนุกรรมการศึกษาความยากง่ายศัลยกรรมความงาม เป็นข้อมูลกำหนดความเข้มข้นการอบรม ขั้นต่ำ 6 เดือนขึ้นไป ชี้ แพทยสภาไม่ได้ดำเนินการฝึกอบรมเอง ต้องให้ราชวิทยาลัย ร.ร. แพทย์เปิดอบรม
นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงกรณีกลุ่มแพทย์ 840 คน ยื่นหนังสือถึงแพทยสภา เพื่อขอให้เปิดหลักสูตรฝึกอบรมศัลยกรรมความงามระยะสั้น โดยที่ประชุมพิจารณาว่ากฎหมายของแพทยสภาไม่ได้ให้แพทยสภาเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น จึงต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง เช่น ราชวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์ สมาคมต่าง ๆ ที่แพทยสภาให้การรับรอง ว่า จะเปิดอบรมได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นแพทยสภาได้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นหนึ่งชุดที่มี นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เป็นประธาน ซึ่งจะมาทำหน้าที่ในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงาม เรียงลำดับหัตถการที่มีความยาก ง่าย ซึ่งตรงนี้จะนำไปสู่การพิจารณาความเข้มข้นของการอบรม ระยะเวลาการอบรมในแต่ละหัตถการ หลักเกณฑ์ข้อกำหนดของผู้ที่จะเข้ารับการอบรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานอย่างเป็นทางการ
นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเปิดกว้างให้แพทย์สามารถทำหัตถการได้ ไม่ได้กำหนดให้เฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และก็พบว่าขณะนี้มีแพทย์ที่มาทำศัลยกรรมความงามกันเยอะ บางคนไปเรียนหลักสูตรระยะสั้นที่ต่างประเทศเพียง 2 สัปดาห์ก็มารับทำศัลยกรรม ซึ่งบอกไม่ได้ว่าใครบ้างที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ คือ โดยหลักการแล้วเรื่องศัลยกรรมความงามไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง แต่แพทย์สภาอยากให้ประเทศไทยมีแพทย์ที่ทำเรื่องนี้มีมาตรฐานกว่าเดิม จึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องทำอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วเห็นว่าเรื่องการอบรมต้องแล้วแต่ความยากง่าย แต่อย่างน้อยต้องอบรม 6 เดือนขึ้นไป หากเป็นหัตถการที่ต้องใช้การฉีด อาจจะอบรมไม่นานมาก ส่วนแพทย์ที่จะเข้าอบรมนั้นต้องเป็นมีประสบการณ์ทำงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่ละคนอบรมได้ไม่เกิน 3 ประเภท เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคนที่เรียนเฉพาะทางด้วย
“ตอนนี้หมอทุกคนสามารถทำได้ ถ้าเสียหายถูกร้องเรียนเข้ามาก็ต้องว่ากันเป็นกรณีๆ ไป ซึ่งตอนนี้เรื่องเรรียนเกี่ยวกับศัลยกรรมความงามก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การฝึกอบรมก็เป็นมาตรการหนึ่งที่หลายประเทศทำเพื่อให้หมอมีมาตรฐาน ไม่ใช่เรียนต่างประเทศมา 2 อาทิตย์ ก็มาทำ หรือไปแอบทำกันเอง เชื่อว่าตัวคุณหมอก็อยากจะพัฒนาตัวเอง จึงมายื่นขอให้เปิดหลักสูตร” นพ.สัมพันธ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่