MGR Online - กิ๊กใหม่ซ้อนแผนจับหนุ่มนักเพาะกายกบดานเชียงราย หนีคดีเตะซี่โครงแฟนเก่าหัก แถมเอาบุหรี่จี้หน้า อาการสาหัส ก่อนจับขังในห้อง 2 วัน อ้างปันใจให้ต่างชาติ พร้อมก้มกราบแม่ผู้เสียหายทำไปเพราะโมโห
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา มารดาของนักศึกษาสาววัย 22 ปี เข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าบุตรสาวถูกแฟนหนุ่มนักเพาะกายทำร้ายร่างกายจนปอดฉีก ซี่โครงหัก บุหรี่จี้หน้า จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรเวช ถนนเพชรบุรี และหลังจากได้รับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เพื่อให้เข้ามาสอบปากคำนักศึกษาสาวผู้เสียหายเพื่อเร่งออกหมายจับนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
วันนี้ (31 มี.ค.) เวลา 10.20 น. ที่ สน.หัวหมาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น, พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รรท.ผบก.น.4, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วยนางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายธนะเมศฐ์ โคจรนา หรือเต้ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 656/2559 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2559 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัสและหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากมูลนิธิปวีณาฯ ว่ามีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาบเพชรเวชเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายที่โรงพยาบาล จากการสอบปากคำนางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายได้ความว่า นางสาวเอรู้จักกับนายธนะเมศฐ์ผ่านทางแอปพลิเคชันสื่อสารออนไลน์ และนายธนะเมศฐ์ได้ชักชวนไปที่ห้องพักซึ่งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 24 แยก 12 เพื่อว่าจ้างทำความสะอาด และเมื่อมาถึงนายธนะเมศฐ์ได้ใช้กำลังข่มขืน แต่หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นนางสาวเอก็ยังติดต่อกับนายธนะเมศฐ์มาตลอดจนกระทั่งวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปหานายธนะเมศฐ์ที่ห้องพักและมีปากเสียงกัน นายธนะเมศฐ์ได้ทำร้ายร่างกายนางสาวเอจนบาดเจ็บ มีแผลฉีกขาดบริเวณหลังและลิ้นปี่ กระดูกซี่โครงหัก มีรอยฟกช้ำบริเวณตาทั้งสองข้าง และหลังจากนายธนะเมศฐ์ได้ทำร้ายนางสาวเอแล้วยังกักขังไว้ภายในห้องพัก แต่นางสาวเอได้หลบหนีออกมาได้ในวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่านายธนะเมศฐ์ยังมีหมายจับศาลอาญา ที่ 2138/2557 ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัสและทำให้เสียทรัพย์
นางปวีณากล่าวว่า มี น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้แจ้งเบาะแสว่าได้คุยกับนายธนะเมศฐ์ผ่านทางแอปพลิเคชันออนไลน์ โดยนายธนะเมศฐ์ต้องการให้หาที่พักให้ใน จ.เชียงราย น.ส.บีสังเกตว่านายธนะเมศฐ์มีพฤติกรรมตามที่ข่าวได้นำเสนอไปจึงได้โทร.มาสอบถามตน จากนั้นจึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกระทั่งสามารถควบคุมตัวนายธนะเมศฐ์ได้
จากการสอบสวนนายธนะเมศฐ์ให้การภาคเสธว่าไม่ได้ข่มขืนนางสาวเอแต่อย่างใดเพราะได้ศึกษาดูใจมาสักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็พักอาศัยอยู่ด้วยกับเป็นเวลา 3 เดือน โดยในวันเกิดเหตุตนได้สอบถามนางสาวเอว่ามีใครหรือไม่ นางสาวเอตอบว่าได้คุยกับชาวต่างชาติอยู่และไปกินข้าวด้วยกันจึงทำให้ตนโมโหและได้ลงมือทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตามตนไปจังหวัดเชียงรายเพื่อจะไปยืมเงินเพื่อนมาสู้คดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแถลงข่าวเสร็จนายธนะเมศฐ์ได้ยกมือไหว้แม่ของนางสาวเอ พร้อมพูดว่า “ผมทำไปเพราะบันดาลโทสะ” ขณะที่แม่ของนางสาวเอตอบกลับทั้งน้ำตาว่า “แม่เลี้ยงลูกมา แม่ไม่เคยตีลูกแม่เลยสักครั้ง”