MGR Online - พ่อแม่เด็กหญิงถูกเด็กแสบถีบตกน้ำดับ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ร้องกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ปรึกษาข้อกฎหมาย-เงินเยียวยา
สืบเนื่องจากกรณีการจมน้ำเสียชีวิตของ ด.ญ.ปิยาพัชร หรือน้องเมย์ เปิดโปง อายุ 11 ปี สัญชาติไทย กับ ด.ญ.สุภาวดี หรือแหวน วาระทุม อายุ 12 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่ถูกเพื่อนนักเรียนชายวัย 11 ปี ถีบตกคลองประเวศบุรีรมย์ หน้ามัสยิดอัลเอี๊ยะติซอม ซอยอ่อนนุช 43 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ต่อมา ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ประสานขอความช่วยเหลือต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (30 มี.ค.) เวลา 10.00 น. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม นายปิยะปวัต เปิดโปง อายุ 46 ปี นางรัตนา ชาวเขมร อายุ 24 ปี บิดาและมารดา ด.ญ.ปิยาพัชร พร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางร้องเรียนต่อนางกรรณิการ์ แสงทอง อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหายและเข้ารับคำปรึกษาข้อกฎหมาย
นางกรรณิการ์เปิดเผยว่า การเดินทางมาวันนี้ของครอบครัวผู้เสียหายเนื่องจากไม่ทราบว่าข้อกฎหมายมีอะไรบ้างจึงมาเพื่อรับคำปรึกษา โดยทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายคอยให้คำแนะนำหรือข้อสงสัยต่างๆ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมในคดี เริ่มจากขั้นตอนเจรจาก่อนช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเรื่องเงินชดเชยเยียวยาความเสียหายในคดีอาญานั้นเตรียมส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือในลำดับต่อไป สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเป็นขั้นตอนตามกฎหมายซึ่งเป็นคนละส่วนกัน
นางกรรณิการ์กล่าวอีกว่า ตัวแทนมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ได้มีการประสานงานพูดคุยกันตลอดเพื่อให้ความช่วยเหลือได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีงบประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี โดยหน่วยงานมีการทำงานเชิงรุกรับคำร้องเยียวยาค่าเสียหายจากผู้เดือดร้อนทำให้มีค่าตอบแทนสูงมาก ซึ่งมีจำนวนเงินติดค้างกว่า 200 ล้านบาท และกำลังขอสนับสนุนงบประมาณส่วนนี้ในการช่วยเหลือผู้เสียหายในรายต่อไป
ด้านนายปิยะปวัตกล่าวว่า ตนขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนเพราะเกรงว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีความ หลังทราบข่าวว่าเด็กที่ก่อเหตุนั้นศาลอนุญาตปล่อยตัวไปแล้ว จึงมาติดต่อเพื่อปรึกษาข้อกฎหมายกับเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าจะมีแนวทางการดำเนินการหลังจากนี้อย่างไร รวมถึงยื่นเรื่องขอเงินเยียวยาด้วย