MGR Online - รอง ผบ.ตร.เผยคืบคดีเบนซ์ตีนผีใช้ความเร็ว 215-257 กม./ชม.พร้อมแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา ขับรถเร็วเกินกำหนด-ไม่คำนึงความปลอดภัยผู้อื่น ขณะที่ญาติวอนตรวจหาสารเสพติดที่ผู้ต้องหาเคยปฏิเสธก่อนหน้านี้
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีรถเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ด ทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิต โดยมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.จว.พระนครศรีอยุธยา พนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และญาติผู้เสียชีวิตร่วมรับฟัง
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ผลการสอบปากคำ ตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานแวดล้อม คืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 70 โดยพนักงานสอบสวนชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่มี พ.ต.อ.สุรินทร์ ทัพพันบุปผา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นหัวหน้าชุด ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ เพียงพอที่จะดำเนินคดีต่อนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาที่ขับรถเบนซ์ ตามข้อหาที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งไว้ คือ ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถขณะหย่อนความสามารถ หรือขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งได้เพิ่มข้อหาอีกคือ ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหมด และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่น ซึ่งจะสามารถสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้อัยการส่งฟ้องได้ไม่เกินสิ้นเดือนเมษายนนี้ สำหรับผลการตรวจความเร็วของรถเบนซ์ พบว่า 215-257 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีความความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ส่วนผู้ต้องหาที่นำฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะครบกำหนดผลัดแรกในวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผลัดที่ 2 มีกำหนด 12 วัน โดยผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัว และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด คือ ห้ามออกประเทศ ห้ามขับรถ และยึดใบขับขี่ โดยในส่วนของใบขับขี่นั้นพนักงานสอบสวนได้นำส่งศาลเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ทางครอบครัวผู้เสียหายได้มีการตั้งข้อสังเกตในการตรวจสารเสพติดของตัวผู้ต้องหาที่ได้มีการปฏิเสธไม่ให้ตรวจ และอยากให้ผู้ชำนาญการด้านรถเบนซ์มาตรวจสอบอย่างละเอียด