xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! สำนวนคดีทายาทกระทิงแดง “เมาหลังขับ - ขับไม่เร็ว” แถมให้คนอื่นรับผิดแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - น.1 เผยสำนวนสอบสวนชวนสับสน คดีทายาทกระทิงแดงขับรถชนตำรวจดับ มีการให้บุคคลอื่นรับโทษแทน ชี้ ข้อหาขับรถเร็วสอบไปสอบมากลายเป็นเชื่อพยานว่า “ขับไม่เร็ว” ส่วนข้อหาเมาแล้วขับ ก็อ้างว่า “เมาหลังขับ” เพราะผู้ต้องหากลุ้มใจ! มั่นใจถ้าคุมเองไม่มีลักษณะนี้แน่

จากกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 31 ปี ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเหตุเกิดปี 2555 แต่พนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดีปล่อยให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ที่ยื่นฟ้องดำเนินคดี ทายาทกระทิงแดงขาดอายุความ จนเกิดเป็นข้อครหาความเลื่อมล้ำทางสังคมในการลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยจะมีการข้อสรุปเรื่องดังกล่าวให้ ผบ.ตร. ภายใน 2 วันนั้น

ความคืบหน้าวันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การสอบสวนเป็นเรื่องข้อเท็จจริง และอีกส่วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย เรื่องของการสอบสวนนั้นดูแล้วมีลักษณะผิดปกติ ตนเป็นพนักงานสอบสวนมา 30 กว่าปี ขับรถชนประมาทเป็นเหตุ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลบหนีไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าพนักงาน เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว เป็นเรื่องง่าย แต่ทำไมถึงมีการดำเนินการล่าช้า ตามกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 130 ให้เริ่มการสอบสวนโดยมิชักช้า มาตรา 131 ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อจะทราบข้อเท็จจริงตามพฤติการณ์ที่กล่าวหา ต้องรีบทำให้เร็วรวบรวมหลักฐานทุกชนิด เพื่อจะได้รู้ตัวผู้กระทำความผิด เพื่อพิสูจน์ความผิดหรือพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา

ผู้ต้องหามอบตัวครั้งแรกพอสอบสวนไปสอบสวนมาก็ยอมรับว่าไม่ใช่ กลายเป็นบุคคลอื่นที่มารับผิดแทน กรณีดังกล่าวก็ต้องสอบปากคำบุคคลที่มารับผิดแทนด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามหาสำนวนคดีดังกล่าว เพราะต้องสอบปากคำผู้ที่มารับผิดแทนว่า ให้การเท็จอย่างไรและมีใครสั่งหรือไม่ หรือใครใช้ให้มา ถ้าคนใช้ให้มาก็ต้องดำเนินคดีกับผู้ใช้ด้วย เพราะใช้ให้ผู้อื่นมากระทำความผิดแจ้งความเท็จก็มีโทษเสมือนตัวการ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า เรื่องของกระบวนการพนักงานสอบสวนทำไมไม่รีบดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ารวบรวมหลักฐานก็จบ เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2555 เอาพยานบุคคลมาสอบปากคำตอนนี้แล้วใครจะมาให้การ ผู้ต้องหารับสารภาพการรวบรวมพยานหลักฐานมันง่ายหรือไม่ รับว่าอย่างไร ขับรถยนต์ไปที่ไหน ไปกับใคร ดื่มมากน้อยแค่ไหน ความเร็วเท่าไร่ อย่างนี้ชัดเจนไม่ปรากฏในสำนวนเท่าที่ควรเลย เมื่อผู้ต้องหามามอบตัวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา กฎหมายใหม่เดิมที่เมื่อผู้ต้องหาปรากฏต่อหน้า ให้แจ้งข้อหาแล้วจับกุม แต่กฎหมายใหม่ให้แต่แจ้งข้อกล่าวหาอย่างเดียว ถ้าจะจับกุมหรือคุมขังต้องนำตัวไปให้ศาลออกหมายขัง กรณีดังกล่าวมีการดำเนินการหรือไม่ บอกว่าจับมีหมายจับหรือไม่ มีอย่างที่ไหนแจ้งข้อหา 4 ข้อหา คดีง่าย ๆ ใช้เวลาถึง 6 เดือน

คดีความผิดขับรถเร็ว อัตราโทษตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ปรากฏว่าสอบไปสอบมากลายเป็นเชื่อพยานปากอื่นว่าขับไม่เร็ว คดีเมาแล้วขับอายุความ 5 ปี คดีชนแล้วหนีอายุความ 5 ปี อัตราโทษ 6 เดือน ใกล้จะหมดอายุความวันที่ 4 ก.ย. 2560 สรุปคดีหมดอายุความไป 1 คดี เหลืออีก 2 คดี พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง 2 ข้อหา ข้อหาขับรถด้วยความเร็วและเมาแล้วขับ ทั้งที่ผู้ชำนาญการตรวจพิสูจน์ว่าเร็ว แต่ไปสอบปากคำแล้วไปเชื่อคนบอกว่าไม่เร็ว อย่างนี้ถือว่า พนักงานสอบสวนทำสำนวนตรงไปตรงมาหรือไม่ มีเหตุอะไรถึงให้เหตุผลเป็นเช่นนั้น กรณีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเมาแล้วขับนั้น พนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า เมาหลังขับ เพราะผู้ต้องหาดื่มเหล้าหลังจากเหตุเพราะกลุ้มใจจึงดื่มสุรา จึงเป็นการเมาหลังขับ ถามว่าผิดหรือไม่เมาหลังขับ ก็ต้องลองพิจารณาดูแล้วกันปกติหรือไม่ ผมไม่ได้ว่าอะไรถ้าทำด้วยความสุจริต แต่ต้องดูดุลพินิจของพนักงานสอบสวนว่าทำถูกต้องหรือไม่

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า พวกที่ชอบค้าสำนวน ตนจึงมีโครงการสั่งไม่ฟ้องเป็นศูนย์ ถ้าทำตามโครงการดังกล่าวจะไม่มีทางเป็นอย่างคดีทายาทกระทิงแดงเลย เพราะว่าสั่งไม่ฟ้องไม่ได้ บิดเบือนข้อเท็จจริงไม่ได้ ค้าสำนวนไม่ได้ หรือไปรับผลประโยชน์ไม่ได้ โครงการสั่งไม่ฟ้องเป็นศูนย์จะเป็นหลักประกัน ตนไม่อยากให้สัมภาษณ์เลยเรื่องนี้เหมือนสาวไส้ให้กากิน แต่เพราะรักองค์กรอยากปกป้ององค์กรตำรวจ ในการสอบสวนคดีทำให้เกิดช่องว่างใช้เทคนิคหรือไม่ กฎหมายต้องมีไว้สำหรับคุ้มครองคนดี คนจนหรือคนร่ำรวยทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเสมอภาคกัน บ้านเมืองถึงจะสงบ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกวว่า ถึงกระบวนการสอบสวนตามกฎหมาย เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นให้ผู้รับผิดชอบสำนวนการสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการ ส่งสำนวนแล้วอำนาจการสอบสวนของตำรวจหมดแล้ว ตำรวจส่งฟ้องไปอัยการเห็นชอบด้วยก็สั่งฟ้อง หากสำนวนยังบกพร่องอัยการก็มีสิทธิ์สั่งให้พนักงานสอบปากคำเพิ่มเติม หรือเรียกพยานมาซักถาม ศาลให้ประกันหรือไม่ให้ประกันตัวก็ได้ หรือเอาตัวไปฝากขัง ถ้าไม่ได้ตัวต้องดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ ณ เวลานี้มีการร้องขอความเป็นธรรมต่อท่านอัยการสูงสุด ตนไม่อยากก้าวล่วงเพราะถือว่าทุกองค์มีคนดี ตำรวจดีมีเยอะ อัยการดี ๆ ก็มีมาก การค้าสำนวนจะเป็นไปไม่ได้ถ้าตำรวจทำงานฝ่ายเดียว ต้องร่วมมือกันทั้ง 2 ส่วน

รรท.ผบช.น. กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนยุคตนจะต้องสอบปากคำให้สิ้นกระแสความและปราศจากข้อสงสัย เมื่อถึงอัยการจะได้สิ้นข้อสงสัยไม่ต้องสั่งสอบเพิ่ม ศาลวินิจฉัยได้ง่ายพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้กระทำผิดจริงและมีความผิดจริง เพราะถ้าหากสงสัยศาลก็ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลย ส่วนการตรวจสอบพนักงานสอบสวนที่ทำคดีถ้าจับได้ไล่ทันพบว่า มีความผิดทางอาญาและทางวินัยก็ต้องดำเนินการ แต่หากจำไม่ได้ไล่ไม่ทันต้องพิจารณาทางด้านการปกครองจัดการเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง ตนยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะมีอย่างที่ไหนกฎหมายใช้สำหรับคนจนเท่านั้นหรือ ต้องมีความเท่าเทียมกัน

ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อหาขับรถความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดขาดอายุความไปจะส่งผลต่อการดำเนินคดีข้อหาที่เหลือหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หากขับไม่เร็วไม่เมาแล้วมันจะประมาทหรือไม่ และมีการสอบปากคำพยานว่า ตำรวจอยู่เลนกลางเข้าไปเลนในสุด เปิดช่องลักษณะแข็งนอกอ่อนในหรือไม่ ใช้เทคนิคพนักงานสอบสวนบางคนกลัวจะสั่งไม่ฟ้องตั้งแต่ต้นก็กลัวสื่อมวลชนหรือประชาชนประณาม ยืนยันว่า ตำรวจ อัยการ รักกันไม่มีทะเลาะกัน มีบางคนที่นอกลู่นอกทางเท่านั้น

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น