MGR Online - “เปิ้ล ไอริณ” เซ็กซี่ตัวแม่พร้อมทนาย แจ้งความต่อ ปอท. ถูกมือดีแต่งภาพคล้ายไม่ได้ใส่กกน.แพร่ในโซเชียลมีเดีย เผยเอาผิดทั้งหมด ด้าน ตร.เด้งรับเข้าข่ายหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แพร่ภาพอันเป็นเท็จ
สืบเนื่องจากมีการเผยแพร่ภาพตัดต่อ น.ส.ไอริณ ศรีแก้ว หรือเปิ้ล สวมชุดราตรีไปร่วมงานประกาศรางวัลงานหนึ่ง โดยเป็นภาพที่สวมชุดราตรีสีทองโชว์ให้เห็นเนินอก และกำลังจับชายกระโปรงขึ้นเพื่อให้สามารถก้าวเดินได้ แต่ด้านในที่เป็นซีทรูเผยให้เห็นช่วงล่างดูคล้ายกับไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในและถูกเผยแพร่โลกออนไลน์ในเวลาต่อมา จากนั้นมีการแถลงข่าวที่ สน.พหลโยธิน ไม่เอาเรื่องต่อบุคคลเผยแพร่เนื่องจากส่งข้อความมือถือมาขอโทษแล้ว แต่ น.ส.ไอริณต้องการให้อัดคลิปวิดีโอขอโทษผ่านสื่อภายในเวลา 7 วัน แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับคลิปขอโทษ
วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 14.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.ไอริณ ศรีแก้ว หรือเปิ้ล นักแสดงสาว พร้อมด้วยนายเกรียงไกร นาควะรี ทนายความ เข้ายื่นเอกสารและแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อาคม จำปามูล พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อเอาผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เผยแพร่ภาพตัดต่อสู่สาธารณะ
น.ส.ไอริณกล่าวว่า วันนี้เดินทางมา บก.ปอท.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งปล่อยภาพดังกล่าวหลังจากคราวก่อนไม่ได้แจ้งความเอาไว้ที่ สน.พหลโยธิน เพราะต้องการให้ผู้ที่ถ่ายภาพมาขอโทษ รวมทั้งอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองซึ่งการเผยแพร่ภาพลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นเป็นการทำลายชื่อเสียงของตน โดยได้นำหลักฐานเป็นข้อความและภาพนิ่งจากแอปพลิเคชันไลน์มามอบให้เจ้าหน้าที่ ส่วนการฟ้องร้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
น.ส.ไอริณกล่าวอีกว่า โดยวันเกิดเหตุตนตั้งใจสวมชุดดังกล่าวเพราะออกแบบเองและส่งให้ดีไซเนอร์ไปตัด อีกทั้งป้องกันตัวเองอย่างดีแต่ก็มีภาพหลุดออกมา ตนสงสัยว่ารูปที่เกิดปัญหามีเพียงรูปเดียวและไม่ได้มาจากนักข่าวด้วย เป็นภาพหลุดมาจากคนธรรมดา และใช้เวลา 2 วันกว่าจะเผยแพร่ หากเป็นรูปจริงคงเห็นภาพนั้นตั้งแต่วันแรก ทั้งนี้ตนมองว่าการตกแต่งภาพดังกล่าวเพื่อทำลายตนให้เสียชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ในส่วนต้นตอผู้เผยแพร่รู้ตัวแล้วแต่พูดไม่ได้กลัวเสียรูปคดี
ด้าน ร.ต.ท.อาคมเปิดเผยว่า ได้รับเรื่องและเอกสารข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานว่าใครเข้าข่ายกระทำผิดบ้างก่อนดำเนินแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าน่าเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง รวมถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบ